สำหรับการขายบ้านมือสอง ที่มีทะเบียนบ้านพร้อมกับโฉนดที่ดิน เมื่อโอนกรรมสิทธิ์บ้าน ณ กรมที่ดิน สำคัญมาก คือผู้ซื้อควรตรวจสอบในใบสัญญาซื้อขาย (ท.ด.13) ว่ามีระบุรวม สิ่งปลูกสร้างที่เป็นบ้านตรงกับบ้านเลขที่ของหลังที่ซื้ออย่างถูกต้องหรือไม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
ขายบ้านแล้ว ต้องย้ายออกจากทะเบียนบ้านภายในกี่วัน
ตามปกติแล้ว เมื่อผู้ขายย้ายออกจากบ้านที่ขายเข้าบ้านหลังใหม่ ควรย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านเดิมภายใน 15 วัน ตามหลักการแจ้งย้ายเข้า นับตั้งแต่วันที่เข้าอยู่บ้านใหม่ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
นอกจากนี้ผู้ขายหรือเจ้าบ้านเดิม ควรย้ายชื่อบุคคลใดๆ ออกจากทะเบียนบ้านที่จะขายให้เรียบร้อย (ดูวิธีย้ายทะเบียนบ้านหลังเดิมไปบ้านหลังใหม่) เพื่อให้บ้านที่ขายได้เป็นบ้านว่าง และส่งมอบสมุดทะเบียนบ้านหลังที่ขายได้ให้ผู้ซื้อบ้านคนใหม่ สำหรับการแจ้งย้ายเข้าได้
แต่ในบางกรณีที่เจ้าของบ้านเดิม อาจมีเหตุไม่สามารถนำทะเบียนบ้านมาให้ได้ ผู้ซื้อก็สามารถจะไปที่สำนักงานเขต เพื่อขอทะเบียนบ้านเล่มใหม่ได้เช่นกัน
การขอเล่มทะเบียนบ้านใหม่ เมื่อซื้อบ้านมือสอง
การขอเล่มทะเบียนบ้านใหม่ ไม่ต้องใช้ทะเบียนบ้านเดิม ผู้ซื้อจะได้รับทะเบียนเล่มใหม่ โดยสามารถติดต่อทำทะเบียนบ้านเล่มใหม่ ที่ฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขตของบ้านหลังที่ซื้อ พร้อมเอกสาร ดังนี้
- บัตรประชาชนเจ้าของกรรมสิทธิ์
- โฉนดที่ดิน
- ใบสัญญาซื้อขายบ้านที่ได้จากกรมที่ดิน
หากตรวจสอบพบว่ายังมีชื่อบุคคลอื่นอยู่ในบ้าน ผู้ซื้ออาจต้องเจรจากับผู้ขายที่เป็นเจ้าของบ้านเดิมให้แจ้งย้ายออก หรือหากไม่สามารถติดต่อบุคคลในทะเบียนบ้านเกิน 180 วัน อาจขอสำนักงานเขตให้ย้ายชื่อบุคคลนั้นๆ ไปอยู่ที่ทะเบียนบ้านกลางได้
ทะเบียนบ้าน ไม่มีเจ้าบ้านได้ไหม
ทะเบียนบ้าน ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าบ้าน (อ่าน:เจ้าบ้าน ไม่ใช่ เจ้าของบ้าน) ก็ได้ ทะเบียนบ้านนั้นก็จะว่าง เนื่องจากเราสามารถมีชื่อในทะเบียนบ้านได้เพียงหลังเดียวเท่านั้น ดังนั้น ถ้าเราซื้อบ้านมือสองมาใหม่ และไม่ต้องการย้ายชื่อเข้ามาในทะเบียนบ้านหลังใหม่ ก็ทำได้เช่นกัน
ชื่อในทะเบียนบ้าน มีผลอย่างไร
แต่การมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ก็มีประโยชน์เมื่อต้องการขายทรัพย์ต่อ หากเจ้าของทรัพย์มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี เมื่อต้องการขายทรัพย์ จะไม่โดนภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% แต่หากไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน เราต้องรออย่างน้อย 5 ปี ก่อนถึงจะขายได้ โดยไม่โดนภาษีธุรกิจเฉพาะ