คุณเคยเข้าไปในครัวของร้านอาหารใหญ่ๆ ที่ดูวุ่นวาย เต็มไปด้วยควันและเสียงดังๆ บ้างไหม ครัวของร้านอาหารมักต้องทำอาหารร้อยกว่าจานต่อวัน ซึ่งก็ต้องออกแบบห้องครัวที่สามารถใช้งานได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในเรื่องของความเร็วและความปลอดภัย 

บ้านไฟน์เดอร์ พามาดูเคล็ดลับสำหรับห้องครัวระดับมืออาชีพ ว่าพวกเขามีการจัดวางและใช้งานพื้นที่ครัวอย่างไร และเราสามารถเอามาปรับใช้กับครัวในบ้านได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลย  

1. ทางเดิน 

ในห้องครัวเชิงพาณิชย์ จะถูกออกแบบมาให้ ปลอดภัยมากพอสำหรับ เซฟหลายคนที่ทำอาหารร่วมกันในครัว ซึ่งครัวในบ้านเองก็ควรคำนึงถึงจุดนี้เช่นเดียวกัน ความคล่องตัวในพื้นที่ห้องครัวช่วยให้ลดการปะทะ ชนกันเวลาที่ต้องถือของร้อน ของหนัก หรือ ของมีคมต่างๆ ดังนั้น  ทางเดินในห้องครัวจึงควรกว้างอย่างน้อยประมาณ 90 เซนติเมตร หรือถ้าคุณมีพื้นที่ก็อาจจะกว้างได้ 150 เซนติเมตรเลยได้

2.  ชั้นวางแบบเปิด 

ครัวเชิงพาณิชย์ใช้ชั้นวางแบบเปิดเพื่อให้ง่ายและรวดเร็วในการหยิบใช้ของ มือเหนียวๆ เมื่อทำอาหาร อาจทำให้ประตูชั้นวางเปื้อน ดังนั้นถ้าคุณมีอุปกรณ์ที่ต้องหยิบใช้บ่อย ก็ลองเลือกใช้ชั้นวางแบบเปิด (open shelves) เพราะนอกจากใช้งานได้ง่ายแล้ว ก็ยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่าตู้ชั้นวางแบบมีประตูปิดอีกด้วย 

ข้อแนะนำ: แขวน อุปกรณ์ในครัวที่ใช้บ่อย ในตำแหน่งที่หยิบใช้ได้ง่าย ก็ช่วยให้การทำอาหารในครัวสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย 

3. เลือกใช้สแตนเลส สตีล 

ห้องครัวเชิงพาณย์มีเหตุผลในการเลือกใช้สแตนเลส สตีลคุณภาพดีในห้องครัว เพราะ อาหารที่ออกจากเตาอบร้อนๆ สามารถวางลงได้โดยไม่ทำร้ายผิวของวัสดุเคาน์เตอร์ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ก่อเกิดสนิม ด้วย และถึงว่าคุณจะสามารถหั่นเนื้อลงบยผิวสแตนเลส ได้เลย แต่ก้ส่งผลกับมีดที่ใช้ของคุณด้วย ดังนั้นเลือกใช้เขียงดีกว่า 

4. ก็อกน้ำล้างจานแบบสูง 

เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ก็อกน้ำล้างจานแบบสูง ที่สามารถปรับหมุนได้หลายทางและแรงดันที่ดี คุ้มค่าในการติดตั้งทีเดียว เพราะนอกจากจะช่วยขจัดอาหารบนจานแล้ว ก็ยังสามารถลากทำความสะอาดซิ้งก์ได้อย่างทั่วถึง และทำความสะอาดหม้อ กระทะขนาดใหญ่ได้โดยไม่ติด 

5. ช่องทิ้งขยะบนเคาน์เตอร์ 

เคาน์เตอร์ร้านอาหารมักจะมีช่องสำหรับกวาดเศษลงถังขยะได้โดยไม่ต้องหยิบเศษออกจากเคาน์เตอร์ และเปิดถังขยะเพื่อเทลง ซึ่งทำให้สะดวกสบาย และประหยักเวลา ถ้าคุณมีพื้นที่เคาน์เตอร์เยอะ ก็สามารถเลือกเก็บเป็นไอเดียในครัวได้ หรือประหยัดพื้นที่โดยใช้เขียงในช่องลิ้นชักด้านบนและลิ้นชักด้านล่างสำหรับถังขยะแบบนี้

6. ใส่ใจการใช้เขียง 

การใช้เขียงไม้ ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและสะอาด เพื่อหลีกเลี่ยง กลิ่นที่ปะปนกันในเขียง และการถ่ายผ่านเชื้อระหว่างอาหารประเภทต่างๆ คุณควรอยากใช้เขียงในงานที่ต่างกันเช่น เขียงสำหรับหั่นเนื้อสด เขียงสำหรับหั่นเนื้อสุก เขียงสำหรับหั่นกระเทียม/หัวหอม/หอมแดง และเขียงสำหรับหั่นผลไม้ ซึ่งคุณ สามารถติดป้ายหรือทำสัญลักษณ์ไว้บนเขียงเพื่อแยกประเภทเหล่านี้ด้วย 

ข้อแนะนำ: เขียงสำหรับหั่นเนื้อสด โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ปีก ควรขัดและล้างด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างเพื่อฆ่าเชื้อโรค

7. เลือกใช้ซิลิโคน 

เวลาหยิบของออกจากเตาอบด้วยผ้าบางๆ อาจทำให้เกิดอันตรายได้ง่าย ซึ่งถุงมือกันความร้อนส่วนใหญ่ทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ เลือกใช้ถุงมือแบบซิลิโคนที่คุมยาวเกินข้อมือ เพราะบางครั้ง ความร้อนจากกระทะไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เราเกิดอันตราย แต่เป็นน้ำร้อนๆ ที่กระเด็นเวลาที่ เราเปิดฝา หรือเปิดเตาอบ 

ถุงมือที่สามารถใส่นิ้วแยกกันได้ช่วยทำให้เราใช้งานได้ถนัดและหลากหลายมากกว่าถุงมือทั่วไป และถุงมือกันความร้อนแบบซิลิโคนก็สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 260 องศาเซลเซียส

ข้อแนะนำ: อย่าใช้ผ้าชื้นๆ ในการหยิบจับภาชนะร้อนๆ เพราะความร้อนจะผ่านผ้าชื้นได้อย่างรวดเร็ว

8. พื้นในห้องครัว 

มันเป็นเรื่องสำคัญทีเดียวสำหรับพื้นในห้องครัว โดยห้องครัวเชิงพาณิชย์ก็มักจะเลือกกระเบื้องที่ไม่ลื่นและง่ายต่อการทำความสะอาด ถ้าคุณใช้เวลาในห้องครัวนานๆ ก็อาจมองหารองเท้าที่นิ่มๆ ไว้ใส่ในห้องครัวได้ ครัวในร้านอาหารส่วนใหญ่ก็มักจะให้พนักงานใส่รองเท้าหุ้มปิดนิ้วเท้าเพื่อป้องกันการถูกลวก หรือของมีคมตกหล่นโดนได้