สำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะบ้านหรือคอนโด ที่กำลังต้องการขายที่อยู่เดิม (ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ หรือซื้อบ้านใหม่แล้วกำลังจะขายบ้านเดิม ก็สามารถที่จะขอคืนภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย จากการขายบ้านได้ด้วย ซึ่งเป็นสิทธิที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ บทความนี้ พามาดูเงื่อนไขและขั้นตอนการขอคืนภาษีเงินได้จากการขายบ้านกันเลย
เมื่อผู้ขายได้รับเงินจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี โดยกรมที่ดินจะเรียกเก็บภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย จากผู้ขายโดยคำนวณจากปีที่ถือครอง แต่ผู้ขาย (ผู้มีเงินได้) ก็สามารถที่จะขอคืนภาษีเงินได้จากการขายบ้านได้ ถ้าเข้าเงื่อนไข ดังนี้
เงื่อนไขการขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายบ้าน
1. ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังที่ขาย ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ กรณีที่ซื้อบ้านใหม่และโอนชื่อเข้ามาในทะเบียนบ้านใหม่ ก่อนที่จะขายบ้านเดิมได้ ผู้มีเงินได้อาจมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของหลังเดิมน้อยกว่า 1 ปีก็ได้ แต่เมื่อขายบ้านหลังเดิมได้ ระยะเวลาการมีชื่อในทะเบียนบ้านเดิม และบ้านใหม่ นับจนถึงวันที่ขายบ้านเดิมได้ รวมกันแล้วต้องไม่น้อยกว่า 1 ปี
2. ขายบ้านเก่าแล้วซื้อบ้านใหม่ หรือ ซื้อบ้านใหม่แล้วขายบ้านเก่า ภายใน 1 ปี
ขั้นตอนการขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อขายบ้าน
ในวันโอนกรรมสิทธิ ผู้ขายต้องชำระภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย ที่กรมที่ดินเรียกเก็บก่อน ซึ่งทางกรมที่ดินจะให้ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีเงินได้กลับมา (ใบสีฟ้า)
จากนั้น ผู้ขายที่มีสิทธิขอคืนภาษีเงินได้ ก็สามารถยื่นเรื่องไปยังกรมสรรพากรพื้นที่ โดยกรอกแบบฟอร์ม คำร้องขอคืนเงินภาษีอากร (ค.10) และเตรียมเอกสารไปด้วย ดังนี้
1. ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย ฉบับที่กรมที่ดินออกให้ (ต้นฉบับ ตัวจริง)
2. สำเนาคู่ฉบับสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งเดิม
3. สำเนาคู่ฉบับสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่
4. สำเนาทะเบียนบ้านใหม่ (กรณีที่มีชื่อในทะเบียนบ้านที่ขายเดิม น้อยกว่า 1 ปี)
หลังจากนั้น ทางกรมสรรพากรก็จะตรวจสอบและอนุมัติจ่ายคืนเงินภาษีให้ ภายใน 90 วัน