Jamie Inlow และ สามี พร้อมลูกเล็ก ย้ายมาทำงานที่เมืองสก็อตวิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ในปี 2019 และเพื่อนบ้านของเธอก็พาเดินชม บ้านพักรับแขกสไตล์โรงนา ท่ามกลางฝูงแกะ ที่เจ้าของคนเดิมเคยทำบ้านพักสำหรับเช่า และตอนนี้เป็นบ้านว่าง ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไร เพื่อนบ้านบอกเธอว่าเขาเองก็ไม่อยากจะดูแลการปล่อยเช่าด้วย 

Jamie Inlow จึงเกิดไอเดียธุรกิจขึ้น และเสนอเพื่อนบ้านให้ลงทุนเงินจำนวน $2,000 ดอลล่าร์ (ประมาณ 70,000 บาท) และเธอจะเปลี่ยนโฉมหน้าบ้านพักโรงนาเสียใหม่เพื่อปล่อยเช่าใน Airbnb 

Jamie Inlow เปิดบริษัทชื่อ Be Still Getaways และเริ่มจัดการลงประกาศบ้านเช่า และแบ่งกำไรกับเพื่อนบ้านของเธอ พอเริ่มทำเงินได้มากขึ้น พวกเขาก็เริ่มหาบ้านหลังที่สอง และ Jamie ก็ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อีกคนเพื่อทำบ้านหลังที่สาม จนถึงตอนนี้ บริษัทของเธอมีบ้านเช่าในสังกัดอยู่กว่า 119 แห่งในรัฐเวอร์จิเนีย และมีรายได้ $2,880,000 ดอลล่าร์ (ประมาณ 100 ล้านบาท) เมื่อปีที่ผ่านมา

ตอนนี้เธอออกมาทำงานนี้อย่างเต็มตัว แต่ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอสร้างธุรกิจ การทำบ้านเช่าเป็นเพียงงานเสริม ในขณะที่เธอยังทำงานหลักอยู่ด้วย โดยเธอทำงานกว่า 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และบางครั้งก็ต้องหอบลูกของเธอไปด้วย เธอบอกว่าการที่เธอยังมีงานหลักอยู่ด้วย ช่วยทำให้งานเสริมอันนี้ของเธอเติบโตขึ้นได้ 

และนี่คือสิ่งที่เธอทำ 

ใช้เว็บไซต์และโซเซียลโปรโมทบ้าน 

ช่วงแรก Jamie ศึกษาเกี่ยวกับ Search Engine Opitmization (SEO) เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เธอสร้างบัญชีโซเซียลมีเดียและเว็บไซต์ โดยจ้างบริษัทเพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นออนไลน์ ในตอนนั้นเธอยังมีอสังหาฯ ที่จัดการอยู่เพียงหลังเดียวใน Airbnb 

ต่อมา เธอเริ่มสังเกตอินฟลูเอนเซอร์ชื่อ Julia Randall ที่มักจะเข้ามาสนใจโพสต์ของ Be Still Getaways บ่อยๆ ในอินสตราแกรม Jamie จึงชวนให้มาโปรโมทสถานที่พักแลกกับการได้พักฟรี หลังจากเริ่มลงใน Airbnb 2 เดือน ที่พักของเธอก็เริ่มมีคนสนใจเช่าทุกวัน

สร้างพาร์ทเนอร์ ขยายธุรกิจ

เมื่อบ้านหลังแรกเริ่มทำรายได้ เธอกลับไปหาเพื่อนบ้านที่เป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอีกครั้ง โดยเสนอให้เขาลงทุน $110,000 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 3.8 ล้านบาท เพื่อซื้อบ้านมือสองเล็กๆ มาทำ โดยโมเดลธุรกิจเดิมคือ เพื่อนบ้านลงทุนซื้อ และ Jamie ก็ รีโนเวท ตกแต่งบ้านของเขา และจัดการเรื่องการปล่อยเช่า และแบ่งกำไรกันในตอนท้าย ซึ่งแม้จะเป็นช่วงโควิดในปี 2020 แต่บ้านหลังนั้นก็สามารถปล่อยเช่าได้เรื่อยๆ 

ต่อมาเพื่อนสมัยเรียนของเธอก็ติดต่อมาเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับการทำ Airbnb เธอจึงเสนอตัวในการตกแต่ง และรับดำเนินการจัดการให้ ในราคา $10,000 (ประมาณ 346,000 บาท) โดยแบ่งกำไรกัน และไม่นานก็เริ่มมีบ้านให้เธอดูแลมากขึ้น ปลายปี 2020 บริษัท Be Still Getaways ก็ดูแลอสังหาฯ กว่า 20 รายการ

จากงานเสริม สู่งานหลัก 

ในปี 2021 บริษัท Be Still Getaways จัดการสถานที่เช่ากว่า 30 รายการ โดย Jamie จ้างผู้จัดการดูแล และพนักงานพาร์ทไทม์ในการทำความสะอาด แต่งบ้าน และซ่อมแซม แม้ว่าบริษัทจะดูไปได้ดี แต่เธอเหลือให้ตัวเองเพียง $10,000 ในปีนั้น หรือราวๆ 346,000 บาททั้งปี  

ต่อมาเธอซื้อบริษัทจัดการอสังหาฯ แห่งหนึ่ง เพื่อขยายการทำบ้านเช่า และร่วมก่อตั้งธุรกิจชื่อ Carriage House ร่วมกับนายหน้าท้องถิ่นที่มีฐานผู้สนใจเช่าบ้าน แต่พวกเขาไม่แน่ใจถึงวิธีการ เธอจึงแนะนำธุรกิจของเธอ 

เมื่อได้ทุนคืนจากการลงทุนแล้ว Jamie ก็ลาออกจากงานประจำ และเปลี่ยนจากการรับเงินที่เธอเรียกว่า "เหลือเท่าไรก็ได้เท่านั้น" มาเป็นเงินรายได้ต่อปีที่ $72,000 ดอลล่าร์ (ประมาณ 2,495,520 ต่อปี) ทั้งตัวเธอและสามีต่างก็มาทำที่บริษัท Be Still Getaways มีรายได้รวมกันอยู่ที่ประมาณ $150,000 ดอลล่าร์ต่อปี (หรือประมาณ 5,200,500 บาทต่อปี) บริษัทมีพนักงานประจำ 8 คน และ พนักงานพาร์ทไทม์ประมาณ 60 คน บริษัทดำเนินธุรกิจบ้านเช่าระยะสั้น ระยะกลาง โรงแรม และอะพาร์ตเมนต์ 

จนถึงปัจจุบัน Jamie ยังคงเรียนรู้ในการเป็น CEO เป้าหมายของเธอคือการจ้างคนให้มากขึ้น จัดสรรกระบวนการทำงานให้ไร้ร่องต่อ เพื่อที่จะให้ทุกคนในบริษัทร่วมถึงเธอด้วย ได้มีเวลาพักจากงานที่ต้องเร่งรีบอยู่ตลอด   

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวแรงบันดาลใจที่ที่บ้านไฟน์เดอร์นำมาฝากกัน สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในการทำธุรกิจ เกี่ยวกับอสังหาฯ  คุณสามารถเริ่มต้น ค้นหา บ้าน คอนโด ที่ดิน ในการลงทุนที่ BaanFinder.com ได้เลย 

รูปภาพจาก: bestillgetaways.com