การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะ บ้าน ตอนโด ก็เป็นอีกหนึ่งทางที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้เราได้ และเชื่อว่าหลายคนกำลังสนใจที่จะลงทุนในอสังหาฯ ด้วย

แม้ว่าการลงทุนในอสังหาฯ จะมีหลากหลายรูปแบบ บทความนี้เรามาพูดถึงการลงทุนในอสังหาฯ ที่ไม่มีความเสี่ยงที่ซับซ้อนมากนัก นั่นคือ ซื้อบ้านเก่ามารีโนเวทขาย และ ซื้อบ้านมาเพื่อปล่อยเช่า แต่ละรูปแบบมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสไตล์การลุงทุนและความชื่นชอบของแต่ละคน แต่ละแบบเป็นอย่างไรบ้างมาดูกัน 

1. รีโนเวทบ้านขาย 

การซื้อบ้านมือสอง คอนโดเก่า เพื่อมารีโนเวท ปรับปรุง ให้เหมือนใหม่ น่าอยู่ และขายต่อในราคาที่ดีขึ้น และได้รับกำไรส่วนต่าง ก็เป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการได้ตกแต่งบ้าน รีโนเวทบ้าน  

ข้อดี รีโนเวทบ้านขาย 

การซื้อบ้านมารีโนเวท มีราคาไม่แพง: สำหรับการหาซื้อบ้าน คอนโดมือสอง ที่เหมาะสมกับการรีโนเวทเพื่อขาย ก็ต้องมองทรัพย์ที่ราคาไม่สูงมากนัก เช่น ทรัพย์ธนาคาร ที่มักจะมีราคาต่ำกว่าตลาด หรือบ้านมือสองที่ขายตามสภาพ ทั้งนี้ ถ้าคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้าง อาจต้องหาทีมวิศวกรที่ไว้ใจได้ มาช่วยในการประเมินสภาพบ้านที่คุ้มค่ากับการลงทุน 

รวดเร็ว: การปรับปรุง รีโนเวทบ้าน มักใช้เวลาน้อยกว่าการสร้างบ้านขึ้นมาใหม่ แม้ว่าระยะเวลาในการรีโนเวทขึ้นอยู่กับว่ามีการปรับปรุง ซ่อมแซมมากน้อยแค่ไหน แต่โดยทั่วไปการรีโนเวทบ้านและขายมักจะใช้เวลาอยู่ประมาณ 163 วัน หรือราวๆ 5-6 เดือน ซึ่งถือว่าไม่นานในการที่จะทำกำไร  

อีกหนึ่งข้อดีของการ รีโนเวทบ้านเพื่อขาย คือนักลงทุนไม่ต้องคอยดูแลบ้าน จัดการปัญหาคนเช่าอยู่ตลอดเหมือนอย่างเจ้าของบ้านเช่าที่ต้องคอยจัดการปัญหาเล็กๆ น้อยๆ หรือดีลกับผู้เช่า ซึ่งหากคุณไม่ใช่คนที่พร้อมจะดูแลตลอด การรีโนเวทบ้านเพื่อขายก็อาจจะเหมาะกับคุณ   

ข้อควรพิจารณา เมื่อรีโนเวทบ้านขาย 

ค่าใช้จ่ายในการรีโนเวท: แน่นอนว่าการรีโนเวทบ้านเก่า ก็อาจพบกับสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ไม่ว่าจะปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้าง ท่อน้ำ ต่างๆ ภายในบ้าน ซึ่งอาจต้องปรับแก้ไปในการรีโนเวท ทำให้อาจมีค่าใช้จ่ายที่คาดเดาลำบาก 

ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ: เมื่อเราถือครองทรัพย์สินน้อยกว่า 5 ปี ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เมื่อโอนขาย อยู่ที่ 3.3% ของราคาขายหรือราคาประเมิน (ขึ้นอยู่กับราคาที่สูงกว่า) ตรงนี้เอง ผู้พัฒนารีโนเวทบ้านเพื่อขาย อาจต้องนำมาคำนวณความคุ้มค่าในการปรับปรุงบ้านเพื่อขายด้วยเช่นกัน 

2. ซื้อเพื่อปล่อยเช่า 

ค่าเช่าในแต่ละเดือน ก็เป็นอีกรายได้จากอสังหาฯ ที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากเป็น เจ้าของบ้านเช่า หรือ landlord เพื่อสร้างกระแสรายได้ให้กับคุณในระยะยาว  

ข้อดี เมื่อมีบ้านเช่า 

ค่าเช่า : ค่าเช่าที่เก็บได้ทุกๆ เดือน ซึ่งดีที่สุด ก็คงเป็นการที่ค่าเช่าสามารถครอบคลุมกับค่าผ่อนบ้านที่ต้องจ่ายธนาคาร และค่าใช้จ่ายอย่างเช่น ค่าส่วนกลาง ค่าภาษีที่ดิน โดยหากมีเหลือมาถึงคุณในฐานะนักลงทุนบ้างก็เป็นโบนัสเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างดี 

ได้ลงทุนระยะยาว : การซื้อบ้านถือเป็นการลงทุนระยะยาว โดยที่แนวโน้มราคาของอสังหาฯ ก็มักจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้เหมือนเป็นการบังคับออมเงินไปในตัว

ข้อควรพิจารณา เมื่อมีบ้านเช่า

ค่าบำรุงซ่อมแซม: สำหรับบ้านเช่า ในฐานะเจ้าของบ้าน ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายในเรื่องการบำรุง ซ่อมแซมบ้าน คอนโด รวมถึงจัดการปัญหาผู้เช่าต่างๆ  

สภาพคล่องลดลง: ในขณะที่คุณมีค่าเช่าเข้ามาในแต่ละเดือน แต่เงินลงทุนหลักที่ต้องจ่ายไปกับการซื้อบ้านก็ถือเป็นจำนวนมาก และกว่าที่ค่าเช่า จะคุ้มทุนกับราคาที่คุณจ่ายซื้อบ้าน ก็อาจใช้ระยะเวลานาน นั่นหมายถึงการที่คุณอาจจะพลาดโอกาสในการลงทุนอสังหาฯ อื่นๆ เพราะเงินของคุณอยู่กับบ้านหลังนี้ จนกว่าคุณจะขายบ้านหลังนี้ไป 

ข้อควรระวัง 

การสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะ บ้าน คอนโด อาจดูน่าตื่นตาตื่นใจ หรืออาจ น่ากังวลใจไปเลยก็ได้ เพราะแม้ว่า การซื้อบ้านมารีโนเวทขาย หรือซื้อบ้านมาปล่อยเช่า จะถือเป็นการลงทุนที่อาจสร้างรายได้ในคุณได้ แต่ก็ไม่สำหรับทุกคน เพราะผู้ที่อยากที่จะทำรายได้จากอสังหาฯ แต่มีประสบการณ์น้อย อาจจะสร้างความผิดพลาดใหญ่ได้ ดังนั้น นักลงทุนอสังหาฯ ควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนให้ดีก่อนเสมอ