น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานเสวนา "เจาะลึกศักยภาพและความเสี่ยงอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพจตุรทิศ" จัดโดย บริษัท ทูมอร์โรว์ กรุ๊ป จำกัด ว่า ข้อแนะนำนักลงทุนซื้อห้องชุดเพื่อลงทุน นอกจากราคาควรพิจารณาทำเลโดยเลือกโครงการอยู่ในย่าน Central Busiess District หรือ CBD(เขตศูนย์กลางธุรกิจ) เช่น ลุมพินี สีลม สาทร เพลินจิต ทองหล่อ และย่านมิดทาวน์เพื่อให้การรีเซลมีโอกาสสูง ทั้งนี้ในหลายทำเลขณะนี้มีแนวโน้มโอเวอร์ซัพพลาย(Over Supply) ไม่เหมาะกับการลงทุนและควรระมัดระวัง เช่น แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง คาดว่าจะใช้เวลาดูดซับ 2 ปี หากสภาพเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น เพราะถือว่าเป็นทำเลที่ไกลจากCBD ทำให้ผู้ซื้ออสังหาฯอยู่จริงส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ มีคนต่างถิ่นย้ายเข้าไปอยู่น้อย การรีเซลทำได้ยาก
ทำเลCBDที่เหมาะสมขณะนี้เหลือแปลงที่ดินพัฒนาน้อยมาก ราคารีเซลห้องชุดโครงการสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาเพิ่มขึ้น 40-100% ทำให้ราคาต่อ ตร.ม.สูงเกิน 2 แสนบาทแล้ว การลงทุนจึงขยายตัวออกไปใน 4 ทำเลอนาคต อย่าง
1) พหลโยธิน-จตุจักร โดยบริเวณจตุจักร-บางซื่อ จะเกิดสถานีอินเตอร์เชนจ์ขนาดใหญ่ในอนาคต
2) รัชดาภิเษก-พระราม 9 มีแนวโน้มเป็นCBDแห่งใหม่ ราคายังไม่สูงเท่าย่านดาวน์ทาวน์ ผลตอบแทนปล่อยเช่า 4-5% ต่อปี
3) สะพานตากสิน-เจริญนคร มีโครงการไอคอนสยามเป็นจุดดึงดูดในอนาคต
4) สุขุมวิทตอนปลาย ตั้งแต่พระโขนงถึงบางนา มีตึกออฟฟิศใหม่ 2 แห่ง คือโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน(Whizdom 101) ของ บจ.แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น กับเอ็มทาวเวอร์ สุขุมวิท 62(M Tower Sukhumvit 62) ของ บจ.มนตรี อินเตอร์เนชั่นแนล นอกจากนี้มีศูนย์การค้าบางกอกมอลล์(Bangkok Mall) แต่เริ่มมีแนวโน้มโอเวอร์ซัพพลาย จึงต้องระมัดระวังการลงทุน
และอีกทำเลที่น่าสนใจช่วง ถ.พระรามที่ 4 ตั้งแต่หัวลำโพงถึง ม.กรุงเทพ (กล้วยน้ำไท) มีการพัฒนา 4 โครงการในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้แก่ เอฟวายไอ เซ็นเตอร์ สำนักงานให้เช่าบริเวณ ซ.ไผ่สิงโต ในนาม บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ฯ, แปลงที่ดินสามย่านของ บมจ.แผ่นดินทองฯ, แปลงที่ดินสวนลุมพินีของ บมจ.ยูนิเวนเจอร์และ บจ.เกษมทรัพย์วัฒน และแปลงที่ดิน ซ.เทพประทานของ บจ.เกษมทรัพย์สิริ
ข้อมูลจาก: prachachat.net