ซิโน-ไทยขอค่าชดเชย 1.2 พันล้าน หลังกระทบขาดทุนโปรเจ็กต์อาคารรัฐสภาใหม่

แชร์บทความนี้

ซิโน-ไทยฯจุกโปรเจ็กต์รัฐสภาใหม่ดีเลย์ 2 ปี เร่งเคลียร์ปัญหาเดินหน้าก่อสร้างโครงการ หลังมีผลกระทบต่อรายได้รวมบริษัท ขาดทุนร่วม 1 พันล้าน ร่อนหนังสือถึงสภาผู้แทนราษฎรขอค่าชดเชย 1.2 พันล้าน เผยอาจจะมีครั้งที่ 2 ตามมากระทบชิ่งแผนเปิดใช้เป็นปี′62



โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ เป็นงานก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่สูง 11 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันถึง 424,000 ตารางเมตร สร้างบนพื้นที่ราชพัสดุ 123 ไร่ วงเงินค่าก่อสร้าง 11,738 ล้านบาท โดย บมจ.ซิโน-ไทยฯเสนอราคาต่ำสุดกว่า 12,906 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันโครงการเริ่มสะดุด หลังมีการส่งพื้นที่ล่าช้า


แหล่งข่าวจากบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นหนังสือไปยังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอค่าชดเชยรายได้จำนวน 1,200 ล้านบาท จากการที่บริษัทได้รับผลกระทบเนื่องจากมีการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าของการก่อสร้างโครงการอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มูลค่าก่อสร้างกว่า12,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุนจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าว


"ถึงบริษัทจะได้รับการขยายเวลาออกไปอีก 387 วัน จากสัญญาเดิมสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่บริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการดำเนินงานที่เพิ่มระยะเวลามากขึ้น ซึ่งได้ประเมินเป็นค่าชดเชยออกมาเพื่อขอความเป็นธรรมจากรัฐสภา เพราะการขยายเวลาครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการขยายเวลาตามปกติเหมือนงานทั่ว ๆ ไป ที่ได้รับการขยายเวลาโดยมีมติคณะรัฐมนตรีรับรอง เช่น เกิดจากอุทกภัย เป็นต้น ส่วนจะได้รับการชดเชยหรือไม่อยู่ที่การพิจารณาของรัฐสภา"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาความล่าช้ามาจาก 3 ส่วนหลัก คือ


1. การขนย้ายดินที่ขุดขึ้นมาเพื่อนำไปทิ้ง ในสัญญาเป็นหน้าที่ของรัฐสภาจะต้องจัดหาพื้นที่ให้ในรัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาดำเนินการล่าช้า เนื่องจากจัดหาพื้นที่ไม่ได้ ล่าสุดเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา บริษัทได้ยื่นประมูลซื้อดินด้วยวงเงิน 7 แสนบาท ที่ยังเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปทิ้งและเคลียร์พื้นที่เพื่อเดินหน้าก่อสร้างงานส่วนฐานรากต่อไป คาดว่าจะสามารถเคลียร์ให้หมดได้ภายในต้นเดือนธันวาคมนี้


2. การรื้อย้ายพื้นที่ยังไม่แล้วเสร็จ เช่น โรงเรียนโยธินบูรณะที่ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ได้ โดยทางโรงเรียนแจ้งว่าจะย้ายไปยังโรงเรียนแห่งใหม่ที่สร้างขึ้นบนถนนติวานนท์ให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2559 แต่ยังไม่ทราบว่าจะย้ายได้จริงหรือไม่ และ


3. มีการปรับรายแบบก่อสร้างใหม่ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการใช้พื้นที่ของอาคาร เช่น งานสถาปัตยกรรมและงานระบบ


"กำหนดการก่อสร้างใหม่ที่ปรับตามระยะเวลาที่ได้รับการขยาย 387 วัน จะแล้วเสร็จปลายปี 2560 ทั้งนี้การขยายระยะเวลาดังกล่าวเป็นเพียงแค่กรอบเวลาเนื้องานในส่วนก่อสร้างฐานรากและเสาเข็มเท่านั้น คาดว่าจะมีการขยายเวลาออกไปอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ทั้งโครงการอาจจะสร้างเสร็จในปี 2561 เนื่องจากปัญหาของโครงการยังไม่เป็นที่สิ้นสุด และทุกครั้งที่ขยายเวลาออกไปจะมีค่าใช้จ่าย ซึ่งบริษัทจะต้องขอชดเชยเพิ่มอีก"


แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามจากความล่าช้าของโครงการอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทำให้ผลประกอบการของบริษัทลดลงจากที่ประมาณการไว้ประมาณ 21,000 ล้าน อยู่ที่ประมาณ 18,000 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการรวม 3 ไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 10% รอลุ้นรายได้ในไตรมาส 4 ส่วนกำไรคาดว่าจะลดลงเช่นกัน


"ถึงงานก่อสร้างจะมีความล่าช้าจากแผนงานมาก ปัจจุบันโครงการก่อสร้างมีความคืบหน้าประมาณ 16-17% จะพยายามเดินหน้างานก่อสร้างให้เสร็จ จะไม่ปล่อยทิ้งร้าง เพราะหากสำเร็จจะเป็นผลงานสร้างชื่อให้บริษัท"


ข้อมูลจาก: prachachat.net

แชร์บทความนี้

บทความยอดนิยม


บทความใหม่ล่าสุด

เตรียมบ้านให้พร้อมและปลอดภัย ในช่วงวันหยุดยาว

ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว หรืออาจกลับบ้านไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ที่ต่างจัง ... อ่านต่อ...

5 ทริคแต่งบ้านสวยด้วยสไตล์รีสอร์ท ให้บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่

ส่วนมากแล้วคนเรา มักจะอยากได้บ้านที่มีความสวยงาม ร่มรื่น เงียบสงบ มีมุมสวย ๆ เอาไว้นั่งทอดน่องในช่วง ... อ่านต่อ...

6 กลยุทย์การตลาดอสังหาฯ เพื่อเพิ่มยอดขายและมีลูกค้า Walk-in

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภททั้งบ้าน คอนโด ที่ดิน อาคารพาณิชย์ต่าง ๆ มีการแข่งขันกันสูงมากในย ... อ่านต่อ...

วิธีคลายร้อนให้บ้าน ช่วงหน้าร้อนนี้

อากาศที่ร้อนอบอ้าว เมื่อย่างก้าวเข้าสู่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่อากาศร้อนที่สุดในรอบปีของประเทศไท ... อ่านต่อ...

เช่าคอนโดครั้งแรก คำแนะนำ สำหรับผู้เช่ามือใหม่

การ เช่าคอนโด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ไม ... อ่านต่อ...