กู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ง่ายๆด้วยสูตร 5+1

แชร์บทความนี้

รู้หรือไม่ว่า ยอดปฏิเสธสินเชื่อในกลุ่มสินเชื่อบ้านราคาต่ำกว่า1.5ล้านบาทสูงถึง 40-45% ส่วนสินเชื่อกลุ่มบ้านราคาสูงเกิน 1.5 ล้านบาทขึ้นไปอยู่ที่ 20-25% เรื่องของเรื่องเป็นเพราะมีปัจจัยลบมากมาย ตัวแรกเลยคือหนี้สินรถคันแรกที่ยังตามหลอกหลอนจนถึงสิ้นปี 2559 ตัวต่อมาคือหนี้ครัวเรือน สถิติทั้งประเทศสูงปรี๊ดถึง 81.50%

 

ดังนั้น เมื่อสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เชิญผู้บริหารสถาบันการเงินรายใหญ่ 3 แบงก์ มี ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กสิกรไทย ธ.กรุงเทพ รับบทติวเตอร์สอนเทคนิค "กู้ซื้อบ้านยังไงให้ผ่าน" บทสรุปที่น่าสนใจก็เกิดขึ้น

 

สาเหตุที่ปัจจัยลบ 2 ตัว อย่าง หนี้ผ่อนรถ หรือ หนี้ครัวเรือน สำคัญไม่น้อย เพราะเวลาพิจารณาปล่อยสินเชื่อบ้าน นายธนาคารทั้งหลายมีหลักเกณฑ์ตายตัวข้อหนึ่งคือรายได้ผู้กู้ 100% คำนวณแล้ว หนี้ทุกตัวที่มี (รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน) จะต้องเป็นภาระจ่ายหนี้ไม่เกิน 50-80% ของรายได้  

 

ตัวอย่างเข้าใจง่ายๆ

สมศรีมีรายได้เท่าไรคิดเป็น 100% จ่ายหนี้รถคันแรก 30 % หนี้ครัวเรือน (บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ฯลฯ) 30% ค่าใช้จ่ายกินอยู่ประจำวันอีก 35% แสดงว่ามีค่าใช้จ่ายหรือมีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายออกเดือนละ 95% แบบนี้ไปขอกู้เงินจากแบงก์น่าจะหมดสิทธิ เหตุผลเพราะ "ความสามารถในการชำระหนี้" มีต่ำหรือมีน้อยมาก ถ้าปล่อยกู้จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นหนี้เสียหรือ NPL (Non Performing Loan) ในอนาคตนั่นเอง ซึ่งหนี้ที่ไม่ก่อประโยชน์นี้โอกาสเกิดก็ง่ายเสียด้วย ถ้าเบี้ยวจ่ายค่างวด 3 เดือน ทางแบงก์ชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) บอกว่าเป็นหนี้เสียทันที

 

สูตรเด็ดเคล็ดลับกู้เงินซื้อบ้านทำยังไงให้แบงก์อนุมัติ ขมวดปมได้ว่า "5+1" โดยเลข 5 มาจากเทคนิค 5 ข้อในการยื่นขอสินเชื่อ กับเลข 1 สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการSME หรือ "ผู้ประกอบอาชีพอิสระ" ไม่มีคำนิยามตายตัว แต่ให้นึกง่ายๆ ก็พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัดเปิดท้ายขายของ หรือคนที่ทำอาชีพอิสระ แต่ไม่ใช่พนักงานบริษัท รายได้อาจจะมากกว่ามนุษย์เงินเดือนด้วยซ้ำ แต่มีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีหลักฐานการมีรายได้ประจำ

 

เริ่มกันเลยนะคะ

 

สูตรข้อที่ 1

คนที่ยังไม่เคยกู้ให้ทดลองฝึกสร้าง "วินัยการผ่อน" วิธีการให้จำลองสถานการณ์ สมมุติมีงวดผ่อนเดือนละ 7,000 บาท ให้ทดลองกันเงินจำนวนนี้ไว้ทุกเดือน ห้ามแตะต้องเด็ดขาด ถ้าสามารถทำได้สม่ำเสมอก็แสดงว่าวินัยดีมาก สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้มีสูงมากเช่นกัน

 

เทคนิคนี้น่าสนใจ เพราะต้องเห็นใจแบงก์ด้วยเหมือนกัน อย่าลืมว่าสินเชื่อซื้อบ้านผ่อนยาว 25-30 ปี วินัยการผ่อนจึงเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่งยวด

 

สูตรข้อที่ 2

"เดินบัญชี" สิ่งที่สถาบันการเงินต้องการคือหลักฐานการมีรายได้สม่ำเสมอ ฉะนั้น ถ้าไม่มีสลิปเงินเดือนมาโชว์ ก็ต้องใช้วิธีการเดินบัญชี วิธีการคือนำเงินฝากเข้าบัญชีแบงก์ใดแบงก์หนึ่ง อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6-12 เดือน โดยสิ่งพึงระวังสำหรับการเดินบัญชีคือจะต้องมีความสม่ำเสมอ

 

สูตรข้อที่ 3

"ยอดเงินคงเหลือติดบัญชี" ข้อนี้แม้แต่มนุษย์เงินเดือนก็ต้องพึงระวัง เพราะนายแบงก์จะดูว่ามีเงินเหลือติดบัญชีเท่าไหร่ จำนวนควรจะต้องสอดคล้องกับภาระหนี้ที่ขอกู้ คำแนะนำคือ เวลายื่นกู้ ถ้าหากพบว่ามีเงินเหลือติดในบัญชีต่ำแต่ตัวเองไม่ได้มีหนี้สินอะไร ควรแจกแจงรายละเอียดกับแบงก์ว่ารายได้ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีอาจเป็นเพราะนำไปลงทุนอื่นๆ เช่น ซื้อทองคำ หุ้น ซื้อกองทุนรวม เป็นต้น

 

คนขี้สงสัยอาจจะถามว่า จำนวนเงินติดบัญชีเท่าไหร่ดีล่ะ คำตอบกว้างๆ ให้ยึดหลักเหมือนเงินดาวน์ เช่น ซื้อคอนโดมิเนียมราคา 2 ล้าน เงินดาวน์ 10% เท่ากับ 2 แสนบาท เท่ากับต้องขอกู้ 90% หรือ 1.8 ล้านบาท ดังนั้น วงเงินติดบัญชีควรมี 2 แสนขึ้นไป หรือมี 10-15% ของราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ

 

สูตรข้อที่ 4

"เครดิตทางการเงิน" ประวัติการใช้สินเชื่อทุกชนิดจะถูกส่งมาไว้ถังกลางที่เครดิตบูโร เวลาเรายื่นขอกู้แบงก์จะตรวจสอบย้อนหลัง 3 ปีเต็ม คำนวณแล้วหนี้เดิมที่มีอยู่ ถ้าจะเพิ่มหนี้บ้านเข้าไปอีกภาระการผ่อนเกิน 80% ของรายได้หรือเปล่า ถ้าเกินก็หมดสิทธิ โดยตรวจสอบควบคู่กับประวัติการผิดนัดชำระหนี้ ข้อแนะนำคือไม่ควรจ่ายช้าเกิน 30 วัน (อย่าให้ทบงวดนั่นเอง) กรณีที่เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้ให้ชี้แจงสาเหตุผิดนัด ที่สำคัญต้องแนบหลักฐานว่าได้ตามไปจ่ายเรียบร้อยแล้ว

 

สูตรข้อที่ 5

"หลักทรัพย์ค้ำประกัน" ตัวนี้แบงก์ก็ให้ความสำคัญ เพราะเขาจะมองเผื่อว่ากรณีเป็นหนี้เสียแล้วยึดทรัพย์มาขายทอดตลาด จะต้องซื้อง่ายขายคล่องพอสมควร ข้อแนะนำคือพึงระวัง 2 ข้อ ถ้าใช้ที่ดินค้ำประกันจะต้องไม่เป็นที่ตาบอด กับทำเลที่ตั้งไม่ควรอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรม

 

สุดท้ายอีก 1 เทคนิคสำหรับ "ผู้ประกอบอาชีพอิสระ"

กลุ่มนี้โดนหางเลขไปด้วย เพราะทำมาค้าขายรับเงินสดเน้นๆ ทุกวันแต่ไม่มีหลักฐานรายได้ประจำ ปัญหาอยู่ที่เงินสดคล่องมือทำให้รสนิยมสูง มักเลือกซื้ออสังหาฯ ราคาแพง ล่าสุด ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูงเกือบเท่าตัว จาก 19% เพิ่มเป็น 34% นายแบงก์ก็เลยออกอาการแหยงๆ ที่จะปล่อยกู้ ข้อแนะนำคือสามารถใช้ "หนังสือชำระภาษีประจำปี" เป็นหลักฐานแสดงรายได้แทน บางแห่งรับฟังข้อมูลยอดขาย ต้นทุน กำไรต่อวันก็มี

ขอบคุณข้อมูล จาก บทความ เจอแบงก์เขี้ยว! ลอง ′สูตร 5+1′ กู้ซื้อบ้านให้ผ่าน! โดย มติชนรายวัน
ภาพหัวข้อจาก gotcredit.com

แชร์บทความดีดี ผ่านช่องทางด้านล่างได้เลยค่ะ

แชร์บทความนี้


热门文章


文章

เช่าคอนโดครั้งแรก คำแนะนำ สำหรับผู้เช่ามือใหม่

การ เช่าคอนโด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ไม ... 继续阅读......

5 วิธีที่ห้องนอนของคุณทำลายการนอนหลับของคุณ

การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดี แต่บ่อยครั้งที่เรามักมองข้ามปัจ ... 继续阅读......

พาส่อง 4 โครงการใหญ่ ใกล้เปิดตัวในกรุงเทพฯ -ปริมณฑล

การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ มักจะผูกพันกับศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ... 继续阅读......

คอนโดผู้สูงอายุ ดีไหม พร้อมแนะนำ 5 คอนโดผู้สูงอายุในไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้ทิศทางของตลาดอสังหาฯ เริ่มพัฒนาที่อยู ... 继续阅读......

6 ฟีเจอร์ในบ้านยุคใหม่ ที่ผู้ซื้อมองหา

ความต้องการของผู้ซื้อบ้านในยุคปี 2024 นี้ ก็แตกต่างจากยุคสมัยก่อน ดังนั้น เราจึงตรงปรับฟังก์ชั่นการใ ... 继续阅读......