แนวโน้มและทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564

แชร์บทความนี้

เมื่อประมาณปี 2563 ที่ผ่านมา ทิศทางการตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ในรอบ 10 ปี นับจากสถานการณ์ต้มยำกุ้ง  ถือว่าเป็นวิกฤตที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนเจ็บหนัก ความผันผวนของการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก เกิดการวิเคราะห์กันอย่างหนักว่า แล้วในปี 2564 นี้ ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีแนวโน้มปรับตัวได้ดีขึ้นกว่าเดิมไหม วิกฤตหลายอย่างที่เจอเมื่อปีที่แล้วในปีนี้จะกลับมาฟื้นตัวได้ทันหรือไม่


แม้จะเจอวิกฤต แต่การขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ก็มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลการตลาดซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่คาดการณ์ไว้ในปี 2564 จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 12% และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก 3.9%การคาดการณ์นี้เป็นค่าเฉลี่ยเพิ่มจากฐานที่ต่ำ ในปี 2563 มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ประเภทที่อยู่อาศัยบ้านจัดสรรมีหน่วยที่เปิดขายเพิ่มขึ้น 4.1% และอาคารชุดอีกจำนวน 25.1%


แต่สำหรับข้อมูล อสังหาริมทรัพย์ประเทศที่อยู่อาศัย โครงการบ้านจัดสรรต่างๆทั่วประเทศไทยมีการหดตัวลงตั้งแต่ปี 2562 แล้วและเป็นการหดตัวลงเรื่อยมาจนถึงปี 2563 และยิ่งเกิดสถานการณ์เชื้อไวรัสแพร่ระบาด covid-19 จึงทำให้มีการหดตัวลงอย่างรวดเร็ว 25.2%แต่การคาดการณ์ในปี 2564 นี้ แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยจะขายได้ไหมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 3%


5 ประเด็นของแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ ปี 2564

  • ปัจจัยบวก มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของรัฐบาลปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ บวกกับการปรับตัวของผู้ประกอบการ ที่เริ่มมีการโฆษณา และทำสื่อ เพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้น
  • ปัจจัยลบมีคนอีกหลายคน รวมไปถึงผู้ที่เพิ่งจบใหม่ต้องการที่จะซื้อบ้านผ่อนบ้านแม้จะมีกำลังที่จะผ่อนหรือซื้อขายก็ตามแต่ว่าการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินกลับเพิ่มขึ้น ปัจจัยก็คือการกังวลเรื่องการผิดนัดผ่อนชำระหนี้การติดเครดิตบูโรรวมไปถึงสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน
  • โครงการใหม่ในเขตปริมณฑลและกรุงเทพฯ เริ่มมีผู้ประกอบการกลับมาเปิดโครงการใหม่มากขึ้นโดยเป็นโครงการในแนวราบมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 24.3% คิดเป็นมูลค่า 400,360 ล้านบาทจำนวนบ้านจัดสรรประมาณ 52,044 หน่วยและอาคารชุดประมาณ 36,784 หน่วย
  • การโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นไม่เกิน 383,272 หน่วย คิดเป็นมูลค่าสูงสุด 950,591 ล้านบาท
  • กำลังซื้อที่อยู่อาศัยมีการฟื้นตัวดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะกลุ่มราคาระดับกลางตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป พฤติกรรมการซื้อส่วนใหญ่จะเป็นทาวเฮ้าวส์ และบ้านแฝด

โควิด-19 ระลอก 3 จะเป็นตัวฉุดให้วิกฤตแย่กว่าเดิมหรือไม่

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มระบาดมาระลอกใหม่ได้เกิดการวิเคราะห์สถานการณ์แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์กันอีกครั้งว่าจะทำให้การฟื้นตัวที่คาดไว้ว่าจะดีขึ้นนั้นกลับแย่ลงกว่าเดิมหรือเปล่า ซึ่งเราก็ได้ติดตามข่าวกันมาบ้างว่าทั่วประเทศพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 57 จังหวัดแล้ว ทำให้รัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง และได้กำหนดให้จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูงที่สุด ซึ่งมีหลายจังหวัดให้เป็นพื้นที่ควบคุม

จากสถานการณ์นี้ ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นและไม่กล้าที่จะลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ จากข้อมูลมีการปรับลดลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับต่ำสุด เพราะยังมีผู้บริโภคหลายคนที่มีกำลังซื้อและมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างฐานที่อยู่ใหม่จริง ๆ แต่นี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอน เพราะหากมียอดผู้ติดเชื้อลดลง และได้รับการรักษาจนหายขาดแล้ว การแพร่ระบาดของโรคนี้เริ่มคลี่คลายลง ก็อาจจะมีผู้บริโภคกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งก็ได้


ตลาดโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ได้รับผลกระทบมากที่สุด

นับตั้งแต่ปี 2562 ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยลดลง 40 ล้านคนต่อปี และต่อเนื่องจากปี 2563 ลดลงอีกประมาณ 7 ล้านคน สำหรับการคาดการณ์ในปี 2564 นี้ ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นจากเดิมสักเท่าไร ต้องรอให้พ้นปีนี้ แล้วรอดูปี 2565 ที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับมากระเตื้องขึ้นอีกครั้ง ซึ่งต้องรอให้ประเทศมีการฟื้นตัวจากพิษเชื้อไวรัสโควิด-19 และประสบความสำเร็จในเรื่องวัคซีนก่อน


จากผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เจ้าของกิจการโรงแรมและที่พักต่าง ๆ ได้ที่เคยมุ่งเน้นลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อให้อยู่รอดมากขึ้น คือ มีข้อเสนอพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวคนไทยที่ท่องเที่ยวภายในประเทศ และปรับเปลี่ยนเปิดให้บริการในบางส่วนของโรงแรมให้เป็นร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม หลีกเลี่ยงการปิดกิจการไปทั้งหมด เพื่อให้เงินทุนยังคงเคลื่อนไหวต่อไปได้


ปัจจัยในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์คืออะไร

ไม่ว่าจะพบเจอกับวิกฤต ปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไร หากผู้ที่ต้องการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้น มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อจริง จะมีปัจจัยในการเลือกซื้ออย่างไรบ้าง

  •  อย่างแรกเลยคือทำเลที่ตั้งว่าตรงตามที่ต้องการหรือไม่ บางคนชอบใช้ชีวิตอยู่ในเมือง เพื่อรองรับความสะดวกสบาย แต่สำหรับบางคนต้องการความเงียบสงบและได้บรรยากาศธรรมชาติ
  •  แบบของตัวบ้านหรืออาคารเป็นที่ถูกใจหรือไม่ ห้องแต่ละห้องมีขนาดเท่าไร หรือไม่ก็บางคนจะยึดหลักฮวงจุ้ยก็จะเน้นทิศทางของตัวบ้าน และเลขที่บ้านเป็นตัวเลือกอันดับแรก
  •  การก่อสร้างมีความแข็งแรงคงทน ปลอดภัยดูน่าเชื่อถือหรือไม่ซึ่งโดยรวมการก่อสร้างบ้านจะต้องมีการวางท่อระบบน้ำ หรือไฟฟ้า รวมถึงหลังคาหรือ องค์ประกอบหลักๆในการตกแต่ง เช่น กระเบื้อง หลังคา ฝ้า บัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังคา สำหรับ อาคารถือว่า สำคัญมาก ซึ่งสมัยนี้ ไม่ต้องไปซื้อให้ลำบากแต่สามารถซื้อได้ในเว็บไซต์ขายวัสดุก่อสร้างออนไลน์อย่าง hiachet ก็มีเมทัลชีท สำหรับการก่อสร้างสำหรับพวกโรงงาน หรือลานจอดรถ ราคาถูก คุณภาพเยี่ยมมาให้เราเลือกซื้อ แต่หากเป็นสำนักงาน กิจการโรงแรม หรืออาคารขนาดใหญ่ ที่มีการอยู่อาศัยนานๆ ใช้ หลังคากระเบื้องหรือแบบอื่นที่มีความทนทานเรื่องความร้อนและเสริมฉนวนกันความร้อนก็จะดีกว่า
  • เรื่องของราคา หลายโครงการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีการตั้งราคาที่ต่างกันเพื่อเป็นการแย่งชิงลูกค้า ซึ่งการตัดสินใจนั้น ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจด้วย หากราคาอสังหาริมทรัพย์นั้นสูงเกินไป แต่มีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ผู้บริโภครายนั้น การซื้อขายก็ไม่ต้องเสียเวลาเจรจานาน แต่หากผู้บริโภคท่านใดต้องการราคาตามที่เงินทุนตัวเองมี แม้จะต้องการบ้านที่ดูหรูหราขนาดไหนก็ตาม ก็จะยอมปรับสเปคความต้องการของตัวเองลดลงทันที
  • การตกแต่งภายใน ผู้บริโภคบางรายต้องการการบิ้วอินหรือตกแต่งภายในพร้อมเสร็จสรรพทั้งเฟอร์นิเจอร์ ก็มักจะเลือกมองหาโครงการบ้านในลักษณะแบบนี้ก่อนเสมอ เพราะมองว่าคุ้มและไม่ต้องออกแบบหรือเสียเวลามาตก    แต่งเองอีกครั้ง


สรุปแล้วแนวโน้มทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยปี 2564 ยังไม่ฟื้นตัวเร็วเท่าที่ควร แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ว่าจะดีขึ้นกว่าปี 2563 สิ่งที่สำคัญก็คือผู้ประกอบการทั้งหลายควรใช้หลักการบริหารจัดการสินทรัพย์ในเชิงรุกกัน เพื่อรักษาเงินทุนและรายได้ หากปล่อยทิ้งไว้เพื่อรอเวลาให้สถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายแล้ว ก็ไม่มีความแน่นอนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร และหากมันดีขึ้นในเร็ววันนี้จริง ก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใหม่ วิกฤตใหม่ที่ฉุดให้เศรษฐกิจต่ำลงอีกหรือไม่ จึงไม่ควรมองข้ามและมุ่งเน้นที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อให้อยู่รอดต่อไปได้ อย่าลืมว่าแม้ตอนนี้อะไรก็ดูหยุดชะงักไปทุกอย่าง แต่การแข่งขันทางการตลาดก็ยังคงมีอยู่ ฉะนั้น เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากคู่แข่ง จำเป็นจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีการสร้างรายได้นั้นเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอยู่เสมอ


ข้อมูลจาก: img: dariasophia
แชร์บทความนี้


热门文章


文章

เช่าคอนโดครั้งแรก คำแนะนำ สำหรับผู้เช่ามือใหม่

การ เช่าคอนโด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ไม ... 继续阅读......

5 วิธีที่ห้องนอนของคุณทำลายการนอนหลับของคุณ

การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดี แต่บ่อยครั้งที่เรามักมองข้ามปัจ ... 继续阅读......

พาส่อง 4 โครงการใหญ่ ใกล้เปิดตัวในกรุงเทพฯ -ปริมณฑล

การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ มักจะผูกพันกับศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ... 继续阅读......

คอนโดผู้สูงอายุ ดีไหม พร้อมแนะนำ 5 คอนโดผู้สูงอายุในไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้ทิศทางของตลาดอสังหาฯ เริ่มพัฒนาที่อยู ... 继续阅读......

6 ฟีเจอร์ในบ้านยุคใหม่ ที่ผู้ซื้อมองหา

ความต้องการของผู้ซื้อบ้านในยุคปี 2024 นี้ ก็แตกต่างจากยุคสมัยก่อน ดังนั้น เราจึงตรงปรับฟังก์ชั่นการใ ... 继续阅读......