ด้วยการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้หลายประเทศออกมาตรการ stay-at-home ให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาด และลดภาระของแพทย์ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ประเทศไทย หลายบริษัทก็เริ่มให้ ทำงานที่บ้าน และรัฐก็มีมาตรการปิดห้าง ร้านค้า แหล่งชุมนุม ฟิตเนส

บ้านไฟน์เดอร์ เคยเสนอบทความ วิธีดูแลและป้องกัน "บ้าน" ของคุณจากโรค COVID-19 แล้ว วันนี้ เรารวบรวม คำแนะนำ และทิปวิธีการจัดการกับสุขภาพจิตเมื่อต้องอาศัยอยู่ในบ้านช่วงนี้กัน 

1. สร้างกิจวัตรประจำวัน 

การมีเวลาที่แน่นอนช่วยให้คุณจัดการสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น เมื่อคุณต้อง work from home หรือทำงานที่บ้าน มันสำคัญที่เราจะแบ่งเวลาในแต่ละวันให้ชัดเจน ไม่ว่าจะกำหนดเวลาเข้านอน เวลาตื่นนอน เวลาเริ่มทำงาน เวลาพักกลางวัน หรือพักเบรก โดยไม่ลืมที่จะอาบน้ำ แต่งตัว ให้เหมือนกับว่าคุณไปทำงาน เพราะการแต่งตัวของเราส่งผลกับความรู้สึกของเราในการทำงานด้วย   

2. ติดต่อพูดคุยกับคนที่เรารัก 

ครอบครัว เพื่อน คนรัก แม้ว่าการต้องอยู่ห่างกันทางกายเพราะ social-distancing แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะติดต่อใครไม่ได้ คุณยังสามารถส่งข้อความ โทรศัพท์ วีดีโอคอล พูดคุยกับพ่อแม่ เพื่อน คนที่คุณรักได้เสมอ โดยพยายามให้กำลังใจ และมองหาด้านที่ดีในช่วงเวลานี้ร่วมกัน  

3. ใช้เวลากับครอบครัว

พยายามหาเวลาใช้ร่วมกับครอบครัว หากิจกรรมที่สามารถทำด้วยกันได้ เช่น อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ ดูหนังหรือซีรี่ย์ร่วมกันทั้งครอบครัว หรือวางแผนสิ่งที่จะทำร่วมกันเมื่อวิกฤตจบลง 

และอย่าลืมให้เวลาส่วนตัวด้วย การที่คนในครอบครัวเจอกันตลอดเวลา อาจจะมีกระทบกระทั่งกันได้ ดังนั้น พยายามให้พื้นที่ส่วนตัวกับแต่ละคนในครอบครัว โดยไม่ไปเกาะติดหรือพึ่งใครคนใดคนหนึ่งมากเกินไป จนไม่มีพื้นที่ส่วนตัว

4. สร้างโอกาสในการพัฒนาตัวเอง 

ยุคนี้ การเรียนรู้สามารถทำได้ง่ายๆ บนโลกอินเตอร์เน็ต คุณสามารถใช้เวลานี้ ในการศึกษาสิ่งที่คุณสนใจ ไม่ว่าจะ การเรียนภาษา การฝึกทำอาหารจานโปรด หรือ การเรียนรู้ทักษะที่ช่วยพัฒนาในหน้าที่ทำงานคุณ  

ที่สำคัญ อย่าลืมจัดสรรเวลาในการออกกำลังกายด้วย การมีร่างกายที่แข็งแรงในเวลานี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน คุณสามารถออกกำลังกาย ไม่ว่าจะวิ่งลู่วิ่ง โยคะ หรือออกกำลังกายตามคลิปใน YouTube ที่บ้านก็ได้เช่นกัน   

5. เก็บกวาด จัดระเบียบในบ้าน

การมีบ้านที่สะอาด เป็นระเบียบ ส่งผลต่อจิตใจของคุณเมื่ออยู่ในบ้าน ใช้เวลานี้ในการ ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ หรือ จัดเก็บโต๊ะทำงาน กองหนังสือ กองเอกสาร เสื้อผ้า หรือ คัดเลือกของและเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วเพื่อเตรียมบริจาคก็เป็นไอเดียที่ดีเช่นกัน  

8 การจัดบ้านที่คุณสามารถเริ่มทำได้ในเวลาน้อยกว่า 15 นาที

6. กำหนดการรับรู้ข่าวสารของคุณ 

การนั่งดูข่าวสารแง่ลบตลอดทั้งวัน แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบที่สร้างความเครียด ความวิตกกังวล ให้กับสภาวะจิตใจของคุณได้ ที่สำคัญมันกินเวลาแต่ละวันไปอย่างมาก ดังนั้น คุณควรจัดการการรับรู้จากสื่อต่างๆ อย่างพอเหมาะ ให้คุณระวังได้ แต่ไม่ระแวงหรือตัดขาดความสัมพันธ์กับคนรอบตัวไป

ถ้าคุณรู้สึกเครียดกับการรับรู้ข่าวสาร คุณควรพักจากการรายงานข่าว สื่อโซเซียลมีเดีย โดยลองนั่งสมาธิ ฝึกการหายใจ หรือ หลับตาเพื่อให้สมองของคุณได้พักบ้าง

7. อยู่กับปัจจุบัน และสิ่งที่คุณควบคุมได้ 

มันเป็นเรื่องปกติมากที่คุณจะรู้สึกเครียด และกังวลใจในสถานการณ์แบบนี้ แต่เราจะผ่านวิกฤตไปได้โดยการลงมือทำในสิ่งที่เราทำได้ ดังนั้น อย่าโทษอดีต หรือกังวลอนาคต คุณควรพยายามโฟกัสในสิ่งที่คุณทำได้ในปัจจุบัน เพื่อป้องกันตัวเองและคนในครอบครัวจากโรคระบาดครั้งนี้  

หากคุณรู้สึกเครียดมาก และไม่รู้จะจัดการอย่างไร พยายามพูดคุย ระบายกับคนที่คุณไว้ใจถึงความกลัว กังวลใจของคุณในสถานการณ์นี้ หรือติดต่อปรึกษาสายด่วน 1323 ของกรมสุขภาพจิตได้เช่นกัน 

แต่ละคน มีวิธีรับมือกับความเครียด ความวิตกกังวล ที่แตกต่างกันไป ในช่วงเวลานี้ การมีสุขภาพจิตที่ดี สำคัญพอๆ กับการมีร่างกายที่แข็งแรง เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตในบ้านยามวิกฤต COVID-19 นี้ได้อย่างปลอดภัยและสงบทางจิตใจด้วยเช่นกัน เราจะฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปด้วยกัน