เป็นเวลาร่วม 10 ปี ที่ "ถนนต่อเชื่อมราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก" แนวเหนือ-ใต้ ของ "ทช.-กรมทางหลวงชนบท" เพิ่งจะได้รับจัดสรรงบประมาณมาก่อสร้าง ทั้งที่ออกแบบเสร็จเมื่อปี 2549 ขณะที่การเวนคืนที่ดินรุดหน้าเกือบเสร็จ 100% มียอดเวนคืนรวม 587 ราย เป็นที่ดิน 537 แปลง อาคารและสิ่งปลูกสร้าง 140 ราย ต้นไม้ยืนต้นและพืชผล 156 แปลง
แต่ผลจากความล่าช้าของโครงการ ทำให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น จากทั้งโครงการก่อนหน้านี้จะใช้งบฯก่อสร้าง 8,763 ล้านบาท ล่าสุดทะยานมาอยู่ที่ 11,900 ล้านบาท แยกเป็นค่าก่อสร้างจากเดิม 6,018 ล้านบาท เป็น 9,400 ล้านบาทหรือเพิ่มกว่า 3,300 ล้านบาท ส่วนค่าเวนคืนที่ดินอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท ได้งบฯปี 2558 แล้ว 1,200 ล้านบาท ที่เหลือจะผูกพันปี 2559
"พิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน" อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า โครงการนี้เป็นงานประมูลใหญ่ที่สุดในปีนี้ มีค่าก่อสร้าง 9,061 ล้านบาท (ไม่รวมค่าจ้างที่ปรึกษา) จะเปิดประมูลกลางเดือน พ.ย.นี้ แบ่งเป็น 4 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 วงเงิน 2,081 ล้านบาท สัญญาที่ 2 วงเงิน 2,380 ล้านบาท สัญญาที่ 3 วงเงิน 2,864 ล้านบาท และสัญญาที่ 4 วงเงิน 1,736 ล้านบาท คาดว่าจะได้ผู้รับเหมาเดือน มี.ค. และเริ่มสร้างกลางปี 2559 กำหนดแล้วเสร็จปี 2561
สำหรับรูปแบบโครงการจะก่อสร้างเป็นถนน 6 ช่องจราจร ระยะทาง 12.3 กม. แนวเส้นทางจะต่อเชื่อมไปจากถนนราชพฤกษ์บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 345 (สายบางบัวทอง-บางคูวัด) แล้วตัดแนวใหม่ไปทางทิศเหนือ ข้ามคลองพระอุดม ผ่านพื้นที่นาและเกษตรกรรม จากนั้นเส้นทางตัดผ่านถนนสายเกาะเกรียง-พระอุดม บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านขจีนุช
ผ่านพื้นที่โล่งคลองบางเดื่อ และถนนสายพระอุดม-ปทุมธานี ผ่านคลองบางโพธิ์ใต้ฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ตัดผ่านถนนสาย บ.บางหลวง-บ.บุญประดับ จนสิ้นสุดปลายทางเมื่อบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 346 ที่สามแยกเลี่ยงเมืองปทุมธานี กับถนนสายปทุมธานี-บางเลน
ตลอดเส้นทางจะมีทางแยกต่างระดับจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ทางแยกต่างระดับขุนมหาดไทย ,ไพร่ฟ้า ,บางโพธิ์ใต้ และ ปทุมธานี ที่จุดปลายทางโครงการ
หลังสร้างเสร็จจะช่วยแก้ปัญหาจราจรพื้นที่จังหวัดนนทบุรีกับปทุมธานีและเปิดพื้นที่ตาบอดให้มีการพัฒนาได้มากขึ้นคาดว่าจะมีการพัฒนาใหม่ๆ มารองรับอีกมาก
ที่มา: prachachat.net