ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. เผยดัชนีเชื่อมั่น อสังหา ดีขึ้นกว่าไตรมาสที่แล้วจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่คาดหลังสิ้นสุดทำให้ตลาดรวมชะงักชั่วขณะ ด้าน 'เสนา' มั่นใจปีนี้เป็นปีทองรุก เปิด 9 โครงการทั้งบ้าน-คอนโดฯ พร้อมชิงเค้กบ้านประชารัฐด้วย

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยประจำไตรมาส 1 ปี 2559 พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันเท่ากับ 55.9 สูงกว่าค่ากลาง และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2558 ซึ่งดัชนีมีค่าเท่ากับ 54.6

แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น เมื่อแยกประเภทผู้ประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นสูงกว่า ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน ผู้ประกอบการโดยภาพรวมเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มประกาศใช้ในไตรมาส 4 ปี 2558

คาดหวังว่ากระแสตอบสนองของผู้ซื้อต่อมาตรการจะอยู่ในระดับสูงในช่วง 2-3 เดือนสุดท้ายของมาตรการ ทำให้ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นทั้งในด้านยอดขาย ต้นทุนและการเปิดโครงการใหม่หรือเฟสใหม่เพิ่มขึ้น

"สำหรับดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้าประจำไตรมาส 1/2559 มีค่าเท่ากับ 64.4 ปรับลดลงจากไตรมาสที่แล้ว(ไตรมาส 4/2558) เพราะผู้ประกอบการมองว่าเมื่อมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและการจด จำนองยุติลง ตลาดอาจชะลอลงตามไปด้วย โดยเฉพาะ ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2559"

ด้านน.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้เตรียมเปิด 9 โครงการใหม่ มูลค่า 5,380 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท และบ้านแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท

"ตั้งเป้าหมายปีนี้จะเป็นปีทองของบริษัท ทั้งในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และพลังงานทดแทน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ โดยตั้งเป้ารายได้รวมไว้ 3,572.78 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีที่แล้ว สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากอสังหาฯ 80% ในขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปีที่แล้วมีสัดส่วน 6% ส่วนงบลงทุนวางไว้ที่ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นซื้อที่ดิน 800 ล้านบาท เน้นทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า"

นอกจากนี้ บริษัทยังเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ 5 โครงการ 5 ทำเล จำนวน 500 ยูนิต มูลค่า 750 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเดอะคิทท์ ไลท์ บางกะดี, เดอะคิทท์ ติวานนท์, เดอะนิช ไอดี บางแค, เดอะนิช ไอดี เสรีไทย และ เดอะนิช ไอดี พระราม 2 พร้อมยังจัดโปรโมชั่นให้ส่วนลดเพิ่มและพร้อมโอนทันที ซึ่งปีนี้ยังมั่นใจว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังสามารถขยายตัวได้หากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการการกระตุ้นของภาครัฐต่อเนื่อง

เดอะคิทท์ ติวานนท์

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด