ผลักดันโครงการจัดรูปที่ดินมาตั้งแต่ปี 2552 ภายใต้ พ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อการพัฒนาพื้นที่ 2547 ล่าสุด “กรมโยธาธิการและผังเมือง” อวดโฉมที่ดินที่ดำเนินการสำเร็จอีก 1 จังหวัด ที่ ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรงจ.ลพบุรี

“มณฑล สุดประเสริฐ” อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา กรมได้มอบโฉนดที่ดินแปลงใหม่ ตามโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ จ.ลพบุรี บริเวณหมู่ที่ 9 ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังได้ปรับปรุงสภาพแปลงที่ดิน 335 ไร่ จำนวนแปลงที่ดิน 84 แปลง ซึ่งมีเจ้าของที่ดิน 90 ราย ส่วนใหญ่ไม่มีทางเข้าออก ประชาชนใช้ปลูกข้าว ทำไร่ โดยกรมจัดรูปที่ดินใหม่ให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มประสิทธิภาพ

ภายใต้การดำเนินการในเขตผังเมืองรวมเมืองโคกสำโรง 2562 กำหนดเป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (สีเหลือง) ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง (สีส้ม) และที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (สีเขียว) โดยวางผังระบบถนนภายในโครงการเชื่อมโยงกับถนนภายนอกได้สะดวก ที่ดินมีทางเข้าออกทุกแปลงให้สามารถพัฒนาได้มากยิ่งขึ้น

ภายในโครงการ ประกอบด้วย ถนนสายหลักเป็นถนนตามผังเมือง มีสาย ง.1 ขนาดเขตทาง 40 เมตร ความยาวประมาณ 1.2 กม., ถนนสายย่อย ขนาดเขตทาง 16 เมตร ความยาวประมาณ 1 กม.เศษ, ถนนสายย่อย ขนาดเขตทาง 9 เมตร ความยาวประมาณ 1.9 กม.เศษ และระบบโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ได้แก่ ไฟฟ้า ประปา ระบบไฟฟ้าส่องสว่าง

“การจัดรูปที่ดิน เพื่อพัฒนาพื้นที่จากเจ้าของที่ดินและภาครัฐช่วยกันพัฒนา วางโครงข่ายคมนาคมและขนส่งให้สมบูรณ์ เป็นภารกิจที่กรมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตามผังเมือง แก้ปัญหาผังเมืองอย่างเป็นระบบ เปิดพื้นที่ตาบอด ให้เข้าถึง เพิ่มมูลค่าที่ดินให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ได้ โดยเจ้าของที่ดินยังมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ทำให้รัฐประหยัดค่าเวนคืนที่ดิน” นายมณฑลกล่าว

แผนงานจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ทั่วประเทศ 

สำหรับการจัดรูปที่ดิน “กรมโยธาฯ” จัดทำเป็นแผนงานจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2552-2563 มีโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่วนจังหวัดให้ดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 50 โครงการ ใน 44 จังหวัด ผ่านโครงการที่กรมได้สนับสนุนงบประมาณก่อสร้างถนนตามผังเมืองรวม และใช้การจัดรูปที่ดินเป็นกลไกในการดำเนินการ

ผลสัมฤทธิ์ของโครงการถึงปัจจุบันมีโครงการที่แจกเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินแปลงใหม่ให้เจ้าของที่ดินแล้ว 26 โครงการ ได้แก่ โครงการใน จ.สุพรรณบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพฯ (สวนหลวง ร.9) นราธิวาส น่าน พะเยา ยะลา 1 ยะลา 2 จันทบุรี เพชรบูรณ์ 1 เพชรบูรณ์ 2 สุรินทร์ แม่ฮ่องสอน สระแก้ว ตรัง แพร่ นครราชสีมา ชัยนาท เชียงราย นครพนม กาญจนบุรี พิษณุโลก ระยอง ลพบุรี สุโขทัย และพังงา

มีโครงการที่อยู่ระหว่างเจ้าพนักงานที่ดินดำเนินการออกเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินแปลงใหม่ จำนวน 12 โครงการ ได้แก่ ชลบุรี ระนอง สมุทรสงคราม มุกดาหาร ปราจีนบุรี นครนายก ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา เลย ยโสธร สมุทรสาคร และเชียงใหม่ 

และมีโครงการที่ประกาศสิ้นสุดโครงการในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทั้งสิ้น 7 โครงการ คือ โครงการของกรุงเทพฯ (สวนหลวง ร.9) พะเยา สุรินทร์ สระแก้ว แม่ฮ่องสอน นครราชสีมา และเพชรบูรณ์ 1

หากดำเนินการครบทั้ง 44 จังหวัด รัฐจะได้พื้นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเพิ่มขึ้น 12% หรือประมาณ 1,550 ไร่ และมูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้น 33,721 ล้านบาท จาก 19,424 ล้านบาท เป็น 53,145 ล้านบาท โดยบางโครงการมูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นถึง 11.67 เท่า