รีวิวขั้นตอนขอสินเชื่อ กู้ซื้อบ้านมือสอง สำหรับมือใหม่ (ฉบับมนุษย์เงินเดือน)

แชร์บทความนี้

บ้านมือสอง เป็นตัวเลือกสำหรับผู้หาซื้อบ้านจำนวนมากในปัจจุบัน เพราะ ผู้ซื้อสามารถเลือกทำเล และเห็นสภาพบ้าน เพื่อนบ้าน สภาพแวดล้อมจริงได้เลย ไม่ต้องจินตนาการ นอกจากนี้การเลือกซื้อบ้านมือสองมารีโนเวทใหม่ ก็อาจช่วยประหยัดงบและประหยัดเวลามากกว่าการซื้อบ้านใหม่ หรือสร้างบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน คุณสามารถหาซื้อบ้านมือสองบนเว็บไซต์ ได้ง่ายๆ หรือเลือกขับรถดูบ้าน จากทำเลที่สนใจก็ได้เช่นกัน  

 

เมื่อคุณเจอบ้านมือสองที่ถูกใจแล้ว บทความนี้ จะพาคุณมาเตรียมเอกสารต่างๆ ในการขอสินเชื่อบ้านมือสอง ฉบับมนุษย์เงินเดือน มีอะไรที่คุณควรรู้ก่อนยื่นขอสินเชื่อบ้านมือสองบ้าง มาดูกันเลย   


1. การตกลงซื้อขายกับเจ้าของบ้าน 

เมื่อคุณเข้าดูบ้านและตกลงราคากับผู้ขายได้เรียบร้อยแล้ว คุณจำเป็นต้องทำ "สัญญาจะซื้อจะขาย" ระบุเจ้าของที่ดิน ผู้ซื้อ รายละเอียดบ้าน เงินมัดจำ ราคาซื้อขาย วันที่จะโอนกรรมสิทธิ์ และข้อตกลงอื่นๆ ซึ่งสามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ต 


แจ้งผู้ขายว่าคุณต้องขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน โดยเอกสารที่ต้องขอจากผู้ขายเพื่อประกอบขอสินเชื่อ คือ

  1. สำเนาโฉนดที่ดิน หน้าหลัง ทุกหน้า 
  2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของที่ดิน (เซ็นกำกับ)
  3. สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของที่ดิน (เซ็นกำกับ)
  4. สำเนาทะเบียนบ้านหลังที่จะขาย (เซ็นกำกับ)

2. ตรวจสอบดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน

ระหว่างรอจะเซ็นหรือหลังจากเซ็นสัญญาจะซื้อจะขาย เราก็จะทราบ ข้อมูลเบื้องต้นที่ธนาคารมักจะถาม ก็คือ 

  • จำนวนเงินกู้ที่ต้องการขอ (ราคาซื้อขายบ้านตามสัญญา)
  • ลักษณะบ้าน เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อยู่ในหมู่บ้านหรือไม่ เป็นต้น
  • อายุของบ้าน (ดูจากหลังโฉนด ตรงเจ้าของมือแรกที่ซื้อ) 


การตรวจสอบดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านทำได้หลายทาง ตามสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเดินเข้าธนาคารติดต่อฝ่ายสินเชื่อ ดูจากเว็บไซต์แต่ละธนาคาร ส่งข้อมูลเราให้ธนาคารติดต่อกลับมา หรือ โทรสอบถามดอกเบี้ยธนาคาร ได้เช่นกัน 


คำแนะนำ: โดยปกติแล้ว อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านมือสอง มักจะสูงกว่าบ้านมือหนึ่งจากโครงการด้วย เปรียบเทียบธนาคารหลายๆ แห่ง และเลือกธนาคารที่ต้องการสมัครไว้ 


ขอโบว์ชัวการกู้ซื้อบ้านมือสอง มาดูเยอะๆ บางธนาคารที่เราไป อาจให้ฟอร์มขอสินเชื่อให้เรากรอกมาก่อนจากบ้าน ซึ่งข้อมูลที่ต้องกรอกค่อนข้างเยอะ สำหรับบางธนาคารอาจให้เราไปกรอกฟอร์ม พร้อมยื่นเอกสารทั้งหมดเองที่สาขาเลย ซึ่งก็จะใช้เวลากรอกเอกสารหน้าโต๊ะสักพัก 

 


เราจะกู้ได้เท่าไร

สำหรับการซื้อบ้านมือสอง ของมนุษย์เงินเดือน ส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะดู 2 อย่างคือ ราคาประเมินของบ้าน และ ความสามารถผ่อนของผู้กู้ (เงินเดือน) ซึ่ง 2 อย่างนี้อย่างไหนน้อยกว่า ธนาคารจะเอามาคำนวณจำนวนเงินกู้ที่จะปล่อยให้เรา ที่ 80-90% 


อายุของบ้าน 

อายุของบ้านส่งผลต่อการขอสินเชื่อ ธนาคารบางแห่งจะไม่รับบ้านมือสอง อายุเกิน 20 หรือ 30 ปี ขึ้นไป ดังนั้นเราควรสอบถามธนาคารก่อนทำการยื่นกู้เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาเตรียมเอกสาร 


3. เตรียมเอกสารและยื่นขอกู้ที่ธนาคาร

สำหรับพนักงานเงินเดือน มีเอกสารที่ต้องเตรียมดังนี้ 


ข้อมูลส่วนตัวผู้กู้

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้
  • สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้กู้แต่งงานจดทะเบียนสมรส)
  • สำเนาบัตรประจำตัวและสำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรส 


เอกสารแสดงการเงิน 

  • หนังสือรับรองเงินเดือน (ตัวจริง)  
  • สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน 
  • สำเนาหน้าสมุดบัญชีที่เงินเดือนเข้า 
  • รายการบัญชีที่เงินเดือนเข้า ย้อนหลัง 6 เดือน 

กรณียอดเงินเดือนโอนเข้า ไม่ใช่ code: payroll จะต้องส่งเอกสารเพิ่ม ดังนี้  

  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 1 ปี 
  • เอกสารการเสียภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.90) ปีล่าสุด 
  • ข้อมูลการส่งประกันสังคม (ขอได้ที่สำนักงานประกันสังคม แจ้งว่าใช้ยื่นสินเชื่อบ้าน)
  • เอกสารทวิ 50  


เอกสารเกี่ยวกับบ้าน

  • สัญญาจะซื้อจะขาย (เซ็นแล้ว)
  • สำเนาโฉนดที่ดินหน้าหลังทุกหน้า
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เจ้าของโฉนด
  • สำเนาทะเบียนบ้านของหลังที่จะซื้อ (กรณีเจ้าของโฉนดไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านที่จะขายนี้)
  • แผนที่ตั้งทรัพย์พอสังเขป 
  • หลักฐานการโอนเงินมัดจำ (บางธนาคารขอดู)


คำแนะนำ : สำหรับผู้ที่คิดว่าจะยื่นสมัครสินเชื่อมากกว่า 1 ที่ ควรขอหนังสือรับรองเงินเดือนบริษัทมาตามจำนวนที่จะยื่นเลย จะได้ไม่ต้องขอกันหลายรอบ 


4. การยื่นขอกู้กับธนาคาร


กรอกใบสมัครสินเชื่อได้ที่ธนาคารด้วยตัวเอง โดยกรอกข้อมูล เช่น ข้อมูลบริษัทที่ทำงาน ข้อมูลคู่สมรส ข้อมูลบุคคลที่สามารถทวงถามหนี้ได้ ฯลฯ พร้อมยื่นเอกสารทั้งหมดข้างต้น ไว้กับฝ่ายสินเชื่อที่ธนาคาร สาขาที่สะดวกได้เลย   


หรือบางธนาคาร พนักงานสินเชื่ออาจส่งไฟล์ให้เราปริ้นท์และเซ็น และเรียก messenger มารับเอกสารจากที่ทำงานหรือที่บ้านเราเลยก็ได้ 


คำแนะนำ : บางธนาคาร เช่น ธอส. ให้เปิดบัญชีออมทรัพย์ก่อนสมัครสินเชื่อ ดังนั้นอย่าลืมพกเงินสดไปฝากด้วย 


5. การตรวจประเมินราคาบ้าน 


หลังจากยื่นเอกสารขอสินเชื่อแล้ว ขั้นตอนต่อไปธนาคารจะติดต่อผู้กู้เพื่อขอเข้าตรวจประเมินราคาบ้าน ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการทำงานของธนาคารสาขาที่ยื่น ที่เจอมามีตั้งแต่ 7-20 วัน หลังยื่นเอกสารสมัคร


โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารจะโทรนัด เพื่อสำรวจ ตรวจสภาพบ้าน และถ่ายรูปตัวบ้านสำหรับประเมินราคาเบื้องต้น ขั้นตอนนี้ต้องนัดเจ้าของบ้าน (กรณีที่ยังอาศัยอยู่ในบ้าน) หรือแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบเพื่อหาคนมาเปิดประตูบ้าน (กรณีที่ไม่อยู่ในบ้าน)  


ค่าใช้จ่ายตรวจประเมินบ้าน: 2,800 - 3,210 บาท แล้วแต่ธนาคาร ส่วนใหญ่ธนาคารจะจ้างบริษัทมาตรวจอีกที โดยให้เราจ่ายเงิน (บางธนาคารไม่คิดค่าตรวจประเมินบ้าน ธนาคารจะแจ้งก่อนเสมอ) ซึ่งผลการตรวจประเมิน บริษัทที่ตรวจบ้านจะแจ้งกับธนาคาร โดยตรง และธนาคารจะแจ้งกับเราอีกที  


6. ธนาคารโทรแจ้งผล และนัดวันโอน 

เมื่อยื่นเอกสาร ตรวจประเมินสภาพบ้านแล้ว ต่อมาธนาคารจะติดต่อเราเพื่อแจ้งผลเบื้องต้นก่อนว่า เงินที่กู้ได้จำนวนเท่าไร เราพอใจไหม ระยะเวลากู้กี่ปี มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมบ้าง เช่น ค่าประกันสินเชื่อ หากเราพอใจกับจำนวนเงินกู้ที่ได้ ธนาคารก็จะส่งเรื่อเพื่อขออนุมัติต่อไป หรือหากสินเชื่อไม่ผ่าน ไม่ผ่านเพราะอะไร    


จากนั้น เมื่อผลอนุมัติผ่านแล้ว ธนาคารจะติดต่อเราอีกครั้ง เพื่อนัดวันโอนที่ดิน ให้เราติดต่อนัดวันกับเจ้าของที่ดินเพื่อโอนบ้าน ณ กรมที่ดิน และทำจำนองกับธนาคารในวันนั้นได้เลย 


บทสรุป การยื่นขอสินเชื่อบ้านมือสอง   


- การยื่นขอสินเชื่อ ซื้อบ้านมือสอง ไม่ได้ยุ่งยาก เพียงแต่ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม และใช้เวลารอคอยผลพอสมควร  


- ระยะเวลารวมตั้งแต่ยื่นเอกสารขอกู้ จนถึงวันที่อนุมัติสินเชื่อ คือ 1-2 เดือน ดังนั้น เราแนะนำว่าในสัญญาจะซื้อจะขายเมื่อต้องระบุวันที่โอนที่ดิน ควรเผื่อเวลาในการยื่นเรื่องขอสินเชื่อ 2-3 เดือนนับตั้งแต่วันที่เซ็นสัญญา    


- ส่วนใหญ่แล้ว บ้านมือสอง มักจะไม่ได้เงินกู้เต็มจำนวน 100% ดังนั้น ผู้ซื้อต้องมีเงินเผื่อเพิ่มเติม 10% 20% ของราคาซื้อขายบ้านไว้ด้วย


หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ที่กำลังหาข้อมูลยื่นกู้ซื้อบ้าน ได้ข้อมูลไม่มากก็น้อย หากมีประโยชน์ ช่วยกันแชร์บทความดีๆ ได้เลย




แชร์บทความนี้

บทความยอดนิยม


บทความใหม่ล่าสุด

เตรียมบ้านให้พร้อมและปลอดภัย ในช่วงวันหยุดยาว

ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว หรืออาจกลับบ้านไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ที่ต่างจัง ... อ่านต่อ...

5 ทริคแต่งบ้านสวยด้วยสไตล์รีสอร์ท ให้บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่

ส่วนมากแล้วคนเรา มักจะอยากได้บ้านที่มีความสวยงาม ร่มรื่น เงียบสงบ มีมุมสวย ๆ เอาไว้นั่งทอดน่องในช่วง ... อ่านต่อ...

6 กลยุทย์การตลาดอสังหาฯ เพื่อเพิ่มยอดขายและมีลูกค้า Walk-in

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภททั้งบ้าน คอนโด ที่ดิน อาคารพาณิชย์ต่าง ๆ มีการแข่งขันกันสูงมากในย ... อ่านต่อ...

วิธีคลายร้อนให้บ้าน ช่วงหน้าร้อนนี้

อากาศที่ร้อนอบอ้าว เมื่อย่างก้าวเข้าสู่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่อากาศร้อนที่สุดในรอบปีของประเทศไท ... อ่านต่อ...

เช่าคอนโดครั้งแรก คำแนะนำ สำหรับผู้เช่ามือใหม่

การ เช่าคอนโด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ไม ... อ่านต่อ...