กลางดึกในขณะที่คุณกำลังล้มตัวลงบนเตียงนุ่มๆของคุณหลังการทำงานที่เหนื่อยมาทั้งวัน จู่ๆ คุณก็ได้ยินเสียงรถกระหึ่มดังขี้นมา คุณคิดในใจ ว่า “อีกแล้วหรอเนี่ย” คุณมองนาฬิกาแล้วมันก็เป็นเวลา เกือบจะเที่ยงคืน คุณพยายามข่มตานอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ก่อนจะได้ยินเสียงตะโกนโวยวายอยู่พักใหญ่ สองบ้านนั่นทะเลาะกันอีกตามเคย  แต่คราวนี้ คุณรู้สึกว่ามันรุนแรงกว่าทุกครั้ง จังหวะที่คุณกำลังคิดว่าจะโทรแจ้งตำรวจดีไหม คุณก็ได้ยินเสียง  ดัง ..“ปัง!”..*

หลายปัญหากับเพื่อนบ้าน บ่อยครั้งที่มักจบไม่สวยเท่าไร เนื่องจากการสื่อสารที่ไม่ดี แม้ว่าข่าวเพื่อนบ้านลงมือทำร้ายกันในสังคมอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่เรื่องราวปัญหาของเพื่อนบ้านก็ถูกเล่าต่อกันผ่านอินเตอร์เน็ตหรือ ปากต่อปาก มีให้พบเห็นกันบ่อยๆ คุณเอง ก็อาจจะกำลังประสบปัญหาเหมือนกัน และมันก็เป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น เราจะรับมือกับเพื่อนบ้านไม่ดีอย่างไรที่ไม่นำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม วันนี้ บ้านไฟน์เดอร์มีวิธีแก้ปัญหาเพื่อนบ้านอย่างสันติ มาฝากกันค่ะ

1. ทำความรู้จักเพื่อนบ้าน

ทำความรู้จักเพื่อนบ้านของคุณ(ยิ่งเร็วยิ่งดี) ไม่ได้หมายความว่า ครอบครัวของคุณทั้งสองจะต้องออกทริปเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน แค่รู้จักกันให้ ในแบบที่ทักทายได้เมื่อเจอกัน ให้ของฝากกันในบางโอกาส หรือให้ความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ สร้างความไว้ใจและความเข้าใจ เพราะปัญหากับคนแปลกหน้ามักจะบานปลายได้รวดเร็วกว่าคนรู้จักกัน

2. ตัดปัญหาก่อนที่มันจะเป็นปัญหา

“กันไว้ดีกว่าแก้” เป็นวลีที่ใช้ได้เสมอ ปัญหาคลาสิกกับเพื่อนบ้านมีกันอยู่ไม่กี่อย่าง ดังนั้น การป้องกันปัญหาต่างๆเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรใส่ใจและปฏิบัติตั้งแต่แรกเริ่ม เอาใจเขามาใส่ใจเราจะช่วยให้เราอยู่อาศัยร่วมกันอย่างเป็นสุขได้   

เรื่องเสียง

ถ้าคุณกำลังจะจัดงานเลี้ยง หรือมีปาร์ตี้ ในบ้านของคุณ ก็ไปหาเพื่อนบ้านของคุณในรัศมีที่น่าจะมีผลกระทบ และเสนอพวกเขา 2 อย่าง คือ คำเชิญชวน และ เบอร์โทรศัพท์ที่จะติดต่อคุณได้ ถ้าหากว่าเสียงมันดังรบกวนเกินไป หรือมีปัญหาอะไร เพื่อนบ้านของคุณจะได้โทรบอกคุณก่อนที่จะโทรบอก ตำรวจ

เรื่องการจอดรถ

หากว่าคุณจอดรถหน้าบ้าน โดยเฉพาะบ้านทาว์นเฮ้าส์ ทาว์นโฮม การเข้าเกียร์ N หรือเกียร์ว่างเพื่อให้เลื่อนรถได้เป็นมารยาทที่พึงกระทำ หรือหากมีความจำเป็นจริงๆที่จะต้องจอดรถที่กีดขวางทางเข้าบ้านใดๆ ลงชื่อพร้อมระบุเบอร์โทร หรือเลขที่บ้าน เมื่อต้องการให้เลื่อนรถบนตัวรถที่สังเกตได้ เป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นที่ดีเช่นกัน  

เรื่องสัตว์เลี้ยง

การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะ น้องสุนัข หรือ น้องแมว หรือ สัตว์อื่นๆ ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้เลี้ยงดูที่จะฝึกในสัตว์เลี้ยงไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ดังนั้น หากคุณมีสัตว์เลี้ยง ฝึกควบคุมสัตว์เลี้ยง และรับผิดชอบสัตว์เลี้ยงของคุณให้ดี ทั้ง การเห่าเสียงดัง การเก็บอุจจาระของสัตว์เลี้ยงของคุณตามท้องถนน เป็นต้น

เรื่องต้นไม้

ถ้าคุณมีต้นไม้ใหญ่ ดูแลให้ดี และไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น หากต้นไม้ของเพื่อนบ้านยื่นเข้ามาในตัวบ้านและสร้างความไม่สบายใจ คุณอาจจะบอกกล่าวเพื่อนบ้านตั้งแต่เนิ่นๆให้ทำการตัดต้นไม้ หรือหากมีการขอร้องแต่ไม่เป็นผล คุณก็อาจจะลงมือตัดด้วยตัวเองได้ในพื้นที่บ้านของคุณ

อ่าน : คุณต้องรับผิดชอบใบไม้ที่ร่วงไปตกบ้านข้างๆ หรือไม่

เรื่องน้ำฝน

น้ำฝนจากหลังคาบ้านที่ตกเข้ามาในบริเวณพื้นที่บ้าน การตัดปัญหาแต่ต้น คือการติดตั้งรางน้ำฝนที่นอกจากจะช่วยลดกระแสน้ำฝนที่ตกมายังพื้นที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้ผู้สัญจรหรือเพื่อนบ้าน รางน้ำฝนยังสามารถไหลลงถังช่วยเก็บน้ำฝนไว้ใช้ ประหยัดน้ำไปในตัวด้วย

3. เก็บรายละเอียดปัญหา

ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นมา เริ่มที่จะบันทึกหลักฐานต่างๆไว้บ้าง เช่น เวลา วัน หรือ รูปถ่ายถ้าจำเป็น การกระทำนี้จะส่งผลดี 3 อย่าง คือ

• อย่างแรก มันช่วยให้คุณประเมินความรุนแรงของปัญหา เช่นการที่มองมันในกระดาษ คุณอาจจะตระหนักได้ว่ามันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น หรือบางทีได้มองมุมอื่นซึ่งสามารถแก้ไขได้ในอนาคต
• อย่างที่สอง คุณมีข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้ ซึ่งจะช่วยคุณในการพูดคุย อธิบายสถานการณ์กับเพื่อนบ้านฟัง และ
• อย่างสุดท้าย ถ้าถึงที่สุดแล้ว หลักฐานเหล่านี้ก็สามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ คุณจริงจัง มีเหตุผล และมีระเบียบ ไม่ได้ใช้อารมณ์ หรือ งอแงใดๆ  

4. พูดคุยด้วยเหตุผล

สันติเกิดจากการสื่อสาร จงบอกเพื่อนบ้านของคุณว่าอะไรที่กำลังกวนใจคุณอยู่ อย่าคิดเองว่าเพื่อนบ้านจะรู้ว่าปัญหาคืออะไร จงเปิดใจและตรงไปตรงมา อย่าเก็บกด หาทางออกที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และแสดงความตั้งใจที่จะประนีประนอม ใจเย็นและคิดในแง่บวกเสมอ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ตาม

5. ขอคำแนะนำ และความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น

ถ้าหากว่าคุณพูดคุยแล้วไม่ได้ผล คุณอาจจะลองพูดคุยกับเพื่อนบ้านคนอื่นๆว่ามีใครรู้สึกเหมือนคุณหรือเปล่า หรือ ลองหาความช่วยเหลืออื่นๆ เช่น นิติบุคคล ผู้ใหญ่บ้าน พูดคุยกับพวกเขาและสอบถามวิธีแก้ไขจากพวกเขาดู หรือหากว่ามีเพื่อนบ้านคนอื่นที่สนิทกับเพื่อนบ้านที่มีปัญหา ก็อาจจะชักชวนให้ไปพูดคุยพร้อมกันดูก็ได้  

6. โทรหาตำรวจ

สำหรับการแก้ปัญหาเบื้องต้นต่างๆด้านบนอย่างสันติ ไม่ได้ผล และคุณกำลังคิดว่าเพื่อนบ้าน ทำผิดกฎหมาย หรือกฏระเบียบ ข้อนี้คุณต้องทำการบ้านหน่อย ลองหาข้อมูล และเขียนถึงปัญหาต่างๆ และส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ โทรหาตำรวจ อธิบายเรื่องราวที่เกิดขี้นและแจ้งถึงความพยายามแก้ปัญหาของคุณ

แต่ต้องเข้าใจว่าตำรวจก็อาจจะทำอะไรไม่ได้มาก ยกเว้นเสียแต่ว่ามีการกระทำที่ผิดต่อข้อกฏหมายจริง ดังนั้น โทรหาตำรวจเมื่อมีการส่งเสียงดังอันก่อให้เกิดความรำคาญ หรือ มีการกระทำที่ผิดกฏหมาย (ไม่ใช่ปัญหาประเภทกิ่งไม้โตยื่นมาในพื้นที่บ้าน) การโทรหาตำรวจในกรณีนี้ คุณก็จะแสดงจุดยืนที่ว่า คุณจะไม่ปล่อยปัญหาไปง่ายๆ    

สุดท้ายนี้ การอยู่บ้านใกล้เรือนเคียง อาจจะทำให้มีเรื่องกระทบกระทั้งกันบ้าง แต่ ทางที่ดีนั้นคือ การพูดคุยด้วยเหตุผล และพร้อมเปิดใจรับฟังและร่วมกันแก้ปัญหา จะเป็นสิ่งที่ทำให้ปัญหาไม่บานปลายและอยู่กันได้อย่างมีความสุขนะคะ   

*เนื้อหาข้างต้นบทความแต่งขึ้น สมมติจากเนื้อหาข่าว ไม่มีเจตนาสนับสนุนการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด

หากใครกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเพื่อนบ้าน หรือ เคยแก้ปัญหามาแล้ว แชร์ไอเดียและเรื่องราวของคุณพร้อมบทความนี้ ผ่านช่องทางด้านล่างได้เลยค่ะ