นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังลงพื้นที่ติดตามความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และเตาปูน – ท่าพระ ณ สถานีสนามไชย ในวันที่ 12 ส.ค.นี้ จะเปิดให้ประชาชนร่วมทดลองเดินรถเสมือนจริงช่วงหัวลำโพง-บางแค โดยไม่คิดค่าโดยสารไปถึงวันที่ 30 ก.ย.2562 ซึ่งบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BEM ผู้รับสัมปทานเดินรถจะเปิดบริการเชิงพาณิชย์เก็บค่าโดยสารตามสัญญา ส่วนช่วงเตาปูน-ท่าพระ จะเปิดให้ประชาชนร่วมทดลองวันที่ 1 ม.ค.2563 ทั้งโครงการจะเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือน มี.ค.2563

“วันที่ 12 ส.ค.จะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ 2 สาย คือ สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค จำนวน 11 สถานี และสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-คูคต จำนวน 1 สถานี จากสถานีหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าว จะเปิดให้บริการฟรี”

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน รฟม. อยู่ระหว่างเร่งติดตั้งระบบรถไฟฟ้า (M&E Work) มีความคืบหน้าไปกว่า 80.63% แบ่งเป็นความคืบหน้างานระบบรถไฟฟ้าช่วงหัวลำโพง – บางแค 89.73% และช่วงเตาปูน – ท่าพระ 68.69%

สำหรับความคืบหน้าในการจัดหาขบวนรถไฟฟ้า บริษัทผู้ผลิตได้ขนส่งรถไฟฟ้าขบวนใหม่มาถึงยังประเทศไทยภายในสัปดาห์นี้จำนวน 4 ขบวน ใน 1 ขบวนมี 3 ตู้ และจะทยอยส่งมอบอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ค.นี้จะมีขบวนรถไฟฟ้ามาเพิ่มเป็น 10 ขบวน ในเดือน ก.ย.นี้ จะมีขบวนรถไฟฟ้ามาเพิ่มเป็น 16 ขบวน และในเดือน ก.พ.2563 จะมีขบวนรถไฟฟ้ามาเพิ่มจนครบทั้งหมด 35 ขบวน

“เมื่อขบวนรถไฟฟ้ามาถึงประเทศไทยแล้ว จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบการใช้งาน ก่อนเริ่มทำการทดสอบระบบรวม ในเดือน มิ.ย.– ก.ค.นี้ จากนั้นจะเริ่มการทดสอบการเดินรถเสมือนจริง หรือTrial Running ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าร่วมการทดสอบด้วย โดยปลายเดือนก.ค.นี้ จะเปิดลงทะเบียนจองคิวร่วมทดลอง เพราะจะเปิดให้ทดลองเป็นช่วงๆ จากหัวลำโพง-บางแค โดยประชาชนที่ใช้บริการจะต้องลงเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีหัวลำโพง จนกว่าระบบเก่าและระบบใหม่จะเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์”

ในด้านการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการช่วงเตาปูน – ท่าพระ นายภคพงศ์กล่าวว่า คาดว่าจะเริ่มทำการทดสอบระบบรวมประมาณเดือน ก.ย. – ธ.ค.2562 และเริ่มการทดสอบการเดินรถเสมือนจริง ในเดือนธ.ค. 2562 เป็นต้นไป โดยมีกำหนดจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ภายในเดือน มี.ค.2563 เมื่อเปิดบริการสายสีน้ำเงินครบทั้งโครงข่ายแล้ว คาดว่าจะมีผู้โดยสารอยู่ที่ 800,000 เที่ยวคน/วัน จากปัจจุบันที่มีผู้โดยสารมาใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 360,000 เที่ยวคน/วัน

“ค่าโดยสารสายสีน้ำเงินทั้งโครงข่ายจะเท่ากับปัจจุบันคือ 16-42 บาท แต่เมื่อใช้ร่วมกับสายสีม่วง รฟม.จะเก็บค่าแรกเข้าครั้งเดียว โดยอัตราสูงสุดอยู่ที่ 70 บาท/เที่ยว อย่างไรก็ตามสำหรับประชาชนที่ใช้บริการเฉพาะช่วงหัวลำโพง-บางแค ซึ่งมี 11 สถานีจะคิดค่าโดยสารอยู่ที่ 40 บาท เพราะไม่ถึง 12 สถานีตามฐานที่เราจะคิดค่าโดยสารสูงสุด 42 บาท“

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย จะใช้ระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Heavy Rail Transit System) ที่มีความจุสูง มีระยะทางรวมประมาณ 27 กม. โดยโครงการฯ มีแนวเส้นทางต่อขยายจากรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง – บางซื่อ) ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ออกไป 2 ทิศทาง

ได้แก่ ช่วงหัวลำโพง – บางแค ระยะทาง 16 กม. เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดินจำนวน 4 สถานี และโครงสร้างทางวิ่งยกระดับจำนวน 7 สถานี และช่วงเตาปูน – ท่าพระ ระยะทาง 11 กม. เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับทั้งหมด จำนวน 8 สถานี ซึ่งจะทำให้แนวเส้นทางของรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงินมีลักษณะเชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนขนาดใหญ่ หรือ Circle Line ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินยังมีจุดเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ได้แก่ รถไฟ รถไฟฟ้า รถโดยสาร และเรือโดยสาร เพื่อช่วยลดความแออัดของการจราจรบนถนนสายสำคัญๆ ในเขตเมืองได้เป็นอย่างดี