ใกล้คลอดเต็มที สำหรับพิมพ์เขียวพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณ "สถานีกลางบางซื่อ" มูลค่าโครงการร่วม 68,183 ล้านบาท ของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ที่หมายมั่นปั้นมือดึงนักลงทุนไทย-เทศร่วมลงทุนพัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเดินทางเชื่อมโยงในระดับอาเซียนรองรับเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีแดง "บางซื่อ-รังสิต" และเปิด "เออีซี-ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน"
ล่าสุด วันที่ 2 ธ.ค. 2558 ร.ฟ.ท.จัดซาวเสียงของเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเป็นครั้งที่ 2 รับฟังความคิดเห็นพัฒนารูปแบบโครงการ เพื่อเร่งสรุปโครงการให้เป็นรูปธรรม ก่อนเสนอคณะกรรมการ PPP อนุมัติ
ชงเข้า PPP Fast Track
"ออมสิน ชีวะพฤกษ์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้น ทันกับการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงในปี 2562 จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณานำโครงการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามมาตรการ PPP Fast Track จะใช้เวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 9 เดือน เนื่องจากโครงการจะต้องให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนปี 2556 เนื่องจากโครงการมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท
สำหรับพื้นที่พัฒนามีทั้งหมด 218 ไร่ แบ่งเป็น 3 แปลง
1. พื้นที่ "โซน A" จำนวน 35 ไร่ อยู่ใกล้สถานีกลางบางซื่อ ระยะทาง 50-100 เมตร พัฒนาเป็นพื้นที่ทางธุรกิจ เช่น โรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าและที่จอดรถ มูลค่าการลงทุน 9,363 ล้านบาท
2."โซน B" พื้นที่ 78 ไร่ อยู่ติดกับถนนกำแพงแพชรและสถานีรถไฟฟ้ากำแพงเพชร เหมาะพัฒนาเป็นแหล่งค้าปลีก-ค้าส่ง, ศูนย์กลางการ trading, ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมในกลุ่มอาเซียน มูลค่าการลงทุน 24,744 ล้านบาท
3. "โซน C" เนื้อที่ 105 ไร่ อยู่บนพื้นที่ของสถานีขนส่งหมอชิต 2 ซึ่งปัจจุบันหมดสัญญาเช่าพื้นที่จาก ร.ฟ.ท.แล้ว แต่จะมีการกันพื้นที่ไว้สำหรับสถานีย่อยของ "บขส.-บริษัท ขนส่ง จำกัด" จำนวน 16.43 ไร่ เหมาะในการพัฒนาเป็นเมืองใหม่ มีแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งงานและการพักผ่อนหย่อนใจ มูลค่าการลงทุน 34,076 ล้านบาท
นำร่องโซน A 35 ไร่ หมื่นล้าน
จากผลสรุปการศึกษาโซน A มีศักยภาพสูงในการพัฒนาควบคู่ไปกับสถานีกลางบางซื่อ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่โซน D อีกประมาณ 87.5 ไร่ ที่จะต้องนำมาพัฒนาในระยะเร่งด่วน ขณะนี้อยู่ในการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะพัฒนาเป็นทางเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่หมอชิตกับสถานีกลางบางซื่อ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างระบบรถไฟฟ้าสมัยใหม่ รถยนต์ และคนเดิน
"ร.ฟ.ท.จะเร่งพิจารณารายละเอียดของโครงการเพื่อเร่งออกทีโออาร์ จะแล้วเสร็จต้นปี′59 จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการ PPP และซูเปอร์บอร์ด คาดว่าปี′60 จะประกาศเชิญชวนและคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน จากนั้นในปี′61 เอกชนจะเริ่มออกแบบและพัฒนาก่อสร้างโครงการ มีกำหนดเสร็จปี′64" นายออมสินกล่าวย้ำ
ซี.พี.-สยามพิวรรธน์ร่วมแจม
ด้าน "สมเกียรติ เรือนทองดี" รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ซี.พี.แลนด์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่สถานีกลางบางซื่อที่ ร.ฟ.ท.มีแผนจะพัฒนาโครงการ บริษัทมีข้อเสนอแนะว่า พื้นที่โซน A ควรจะพัฒนาเป็นโรงแรมแบบ City Hotel อาคารสำนักงานเกรด A หรือ B+ ส่วนพื้นที่โซน B และ D จะต้องทำควบคู่กันเพราะมีแม่เหล็กอย่างตลาดนัดจตุจักร น่าจะพัฒนาเป็นแหล่งการค้า พื้นที่ไม่สูงมาก และปรับปรุงตลาดนัดจตุจักรพัฒนาให้ไม่หนาแน่นและมีสภาพแวดล้อมที่ดี เพิ่มศูนย์แสดงสินค้าจากมูลค่าพื้นที่จากโซน D ไปโซน B ได้
ขณะเดียวกันพื้นที่โซน B ที่จะพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน ต้องอาศัยทางเดินลอยฟ้าหรือ Skywalk หรือระบบโมโนเรล เพื่อให้เกิดความสะดวก ด้านรูปแบบการลงทุนอยากให้เป็นการประมูลเช่าระยะยาว 30 + 30 ปี หรือให้มีการแก้กฎหมายให้เช่าที่ดินได้อย่างต่ำไม่เกิน 50 ปี
นายชลชาติ เมฆสุภะ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและการลงทุน บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า มองว่าพื้นที่ตรงนี้มีศักยภาพในการรองรับตลาดที่อยู่รอบประเทศไทย และหากผลักดันเศรษฐกิจของประเทศผ่านโครงการนี้ได้ อาจเกิดศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD แห่งที่ 3 เกิดการขยายเมือง หากจะมีการพัฒนาห้างสรรพสินค้า พื้นที่โซน B น่าสนใจเพราะต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก เพื่อลิงก์ไปที่สถานีกลางบางซื่อ รวมทั้งการพัฒนาโครงการครั้งนี้อาจจะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามา จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จมากขึ้น
หลังจากปิดเวทีซาวเสียงแล้ว อีกไม่นานคงจะได้เห็นว่าใครจะเป็นตัวจริง-เสียงจริง คว้าชิ้นปลามันพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบบนี้ไปครอง
ข้อมูลจาก: prachachat.net