เปิด 15 โซน คอนโด แนวรถไฟฟ้า “จตุจักร-ห้วยขวาง-ดินแดง” คาบเกี่ยว 7 เส้นทาง “ธนบุรี” ราคาแพงเบียดสีลม-สาทร-สุขุมวิท

แชร์บทความนี้

ผลสำรวจจานร้อนที่เพิ่งถูกปล่อยออกมาเป็นของ “REIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์” เกี่ยวกับข้อมูลราคาคอนโดมิเนียมในรัศมี 500 เมตรตามแนวรถไฟฟ้าหลากสี ทั้งสายเก่า-สายอยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมทั้งสายใหม่ที่ยังเป็นแผนอยู่บนกระดาษ

 

เมื่อนำข้อมูลมาจัดเรียงใหม่ โดยโฟกัสในด้าน “ทำเล” เป็นตัวตั้ง พบว่ามี 2 โซนฮอตในปัจจุบัน สาเหตุจากอยู่ในรัศมีเส้นทางรถไฟฟ้า 6-7 สายทางด้วยกัน ได้แก่ ทำเลห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดงกับทำเลธนบุรี

ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง 7 สาย

มีรายงานว่า พื้นที่สำรวจราคาคอนโดฯ ที่กางรัศมี 500 เมตรตามแนวรถไฟฟ้าพบว่ามี 15 โซนหลัก ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวรถไฟฟ้าตั้งแต่ 2 เส้นทาง จนถึงสูงสุด 7 เส้นทาง

ในจำนวนนี้ ทำเลที่คาบเกี่ยวแนวรถไฟฟ้ามากที่สุดคือ ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง จำนวน 7 เส้นทาง ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT บางซื่อ-หัวลำโพง, สีแดง บางซื่อ-มธ.รังสิต, สีเทา (วัชรพล-พระราม 9-ตลิ่งชัน, สีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง, สีน้ำตาล แคราย-มีนบุรี, สีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี

 

ในด้านราคาห้องชุด สถิติต่ำสุดเป็นของเส้นทางสีส้ม 57,419 บาท/ตารางเมตร สูงสุดเป็นของ MRT อยู่ที่ 300,000 บาท/ตารางเมตร โดยมีราคาเฉลี่ยของ 7 เส้นทางตั้งแต่ 70,417-181,800 บาท/ตารางเมตร

 

ข้อสังเกตคือ ใน 7 เส้นทางนี้พบว่ามี 5 เส้นทางที่ราคาห้องชุดเกินหลัก 1 แสนบาท/ตารางเมตร แบ่งเป็นรถไฟฟ้า MRT ราคาระหว่าง 126,000-300,000 บาท/ตารางเมตรที่เหลือเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ และเป็นเส้นทางวิ่งออกชานเมือง ได้แก่ สายสีเหลือง ราคาสูงสุด 161,800 บาท/ตารางเมตร, สายสีเขียวไปคูคต สูงสุด 156,900 บาท/ตารางเมตร, สายสีเทา สูงสุด 124,000 บาท/ตารางเมตร และสายสีแดงเข้มขึ้นไปแตะ 100,000 บาท/ตารางเมตร

 

ธนบุรีเบียดสีลม-สาทร-สุขุมวิท

ทำเลที่น่าสนใจอันดับต่อมา “ธนบุรี” ปัจจุบันรัศมี 500 เมตรที่เชื่อกันว่าเป็นจุดขายคอนโดฯเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวรถไฟฟ้าถึง 6 สายทาง ได้แก่ สายสีทอง ธนบุรี-ประชาธิปก, BTS สีลม, สีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ กับหัวลำโพง-บางแค, สีแดงเข้ม หัวลำโพง-มหาชัย, สีเทา และสายสีน้ำเงิน บางแค-พุทธมณฑลสาย 4

 

โดยราคาต่ำสุดของโซนนี้อยู่ที่สายสีแดงเข้มไปมหาชัย 57,900 บาท/ตารางเมตร ราคาสูงสุดของโซนอยู่ที่สายสีทองที่ผู้รับเหมาปักไซต์ก่อสร้างเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 330,000 บาท/ตารางเมตร

 

เหตุผลเดียวที่ทำให้ราคาห้องชุดแพงโด่งเตะสายตาเป็นเพราะทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีทองมีพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ว่ากันว่าเป็นโค้งน้ำที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่ง แม็กเนตในพื้นที่คือโครงการมิกซ์ยูสแบรนด์ไอคอนสยามที่เตรียมเปิดบริการภายในปลายปี 2561 นี้

 

สถิติเชิงเปรียบเทียบที่เร้าใจ ทำเลธนบุรีที่ราคาห้องชุด 330,000 บาท/ตารางเมตร ถือเป็นระดับราคาแพงสูสีทำเลสีลม-สาทร-บางรัก ซึ่งแนวรถไฟฟ้า MRT ราคาสูงสุดอยู่ที่ 300,000 บาท/ตารางเมตร

 

ในขณะที่ราคาสูงสุดแพงกว่าแนวเส้นทาง BTS สีลมซึ่งมีราคา 276,000 บาท/ตารางเมตร, แพงกว่าทำเลสุขุมวิทตอนต้น ตามแนวรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ซึ่งมีราคา 139,000 บาท/ตารางเมตร และมีราคาสูงกว่าทำเลพญาไท-ราชเทวี ซึ่งราคาสูงสุดอยู่ที่ 230,000 บาท/ตารางเมตรในแนวเส้นทางสายสีส้ม

 

ปทุมวัน-สุขุมวิท 6 แสน/ตร.ม.

 

สำหรับท็อป 5 ราคาแพงสุดจากทั้งหมด 15 โซน พบว่า “ทำเลปทุมวัน” คว้าแชมป์ราคาสูงสุด 600,000 บาท/ตารางเมตร ในแนวเส้นทาง BTS สุขุมวิท รองลงมา “ทำเลสุขุมวิทตอนต้น” ซึ่งน่าแปลกใจว่าอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสีเทา 588,000 บาท/ตารางเมตร

 

อันดับ 3 “สีลม-สาทร-บางรัก” อยู่ในแนว BTS สีลม อยู่ที่ 450,000 บาท/ตารางเมตร อันดับ 4 สุขุมวิทตอนต้น 420,000 บาท/ตารางเมตรแนวรถไฟฟ้า BTS สุขุมวิท และอันดับ 5 “ทำเลสุขุมวิทตอนกลาง” อยู่ในแนวสาย BTS สุขุมวิท อยู่ที่ 368,000 บาท/ตารางเมตร

 

ส่วนท็อป 5 ราคาถูกสุดของ 15 โซน ประกอบด้วย

อันดับ 1 แนวรถไฟฟ้าสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี 29,000 บาท/ตารางเมตร

อันดับ 2 ทำเลสายสีเขียว สมุทรปราการ-บางปู 34,360 บาท/ตารางเมตร

อันดับ 3 ทำเลบางซื่อ-ดุสิต แนวสายม่วง บางใหญ่-เตาปูน 35,700 บาท/ตารางเมตร

อันดับ 4 แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล แคราย-ลำสาลี 38,000 บาท/ตารางเมตร และ

อันดับ 5 แนวเส้นทางสีชมพู แคราย-มีนบุรี 45,000 บาท/ตารางเมตร

 

ราคา 3-5 ล้านขายอืดในเขต กทม.

“ดร.วิชัย วิรัตกพันธุ์” รักษาการผู้อำนวยการ REIC ระบุว่า ผลสำรวจ ณ ครึ่งปีหลัง 2560 ตลาดคอนโดฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลพบว่า เซ็กเมนต์เหลือขายเยอะสุดมีตั้งแต่ต่ำล้านไปจนถึง 5 ล้านบาท เมื่อเจาะลึกลงไปจะเห็นว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.05-3.8 ล้านบาท และทั้งหมดเป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนกับสตูดิโอ

จากการจัดอันดับท็อป 5 ทำเลห้องชุดเหลือขายเยอะที่สุด พบว่า 4 อันดับเป็นทำเลนอกเมือง ได้แก่ นนทบุรี มีหน่วยเหลือขาย 11,385 หน่วย มูลค่าเหลือขาย 26,925 ล้านบาท รองลงมา ธนบุรี เหลือขาย 10,100 หน่วย มูลค่า 27,452 ล้านบาท, สมุทรปราการ เหลือขาย 6,882 หน่วย 14,142 ล้านบาท และปทุมธานี เหลือขาย 5,222 หน่วย 5,593 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ทำเลอย่าง “ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง” ติดท็อป 4 เป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน กลุ่มราคาเหลือขายมากสุดคือ 3-5 ล้านบาท หารค่าเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 3.08 ล้านบาท โดยในภาพรวมมีหน่วยเหลือขาย 5,729 หน่วย มูลค่า 22,216 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังไม่น่าห่วง เพราะอัตราดูดซับของตลาด (absorption rate) อยู่ที่ 4.6% สูงขึ้นจากครึ่งปีแรก 2560 ที่ระดับ 4.2% ส่วนปัจจัยเป็นผลกระทบมาจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นซึ่งกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อบ้านใหม่

ข้อมูลจาก: prachachat.net
แชร์บทความนี้


บทความยอดนิยม


บทความใหม่ล่าสุด

เช่าคอนโดครั้งแรก คำแนะนำ สำหรับผู้เช่ามือใหม่

การ เช่าคอนโด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ไม ... อ่านต่อ...

5 วิธีที่ห้องนอนของคุณทำลายการนอนหลับของคุณ

การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดี แต่บ่อยครั้งที่เรามักมองข้ามปัจ ... อ่านต่อ...

พาส่อง 4 โครงการใหญ่ ใกล้เปิดตัวในกรุงเทพฯ -ปริมณฑล

การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ มักจะผูกพันกับศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ... อ่านต่อ...

คอนโดผู้สูงอายุ ดีไหม พร้อมแนะนำ 5 คอนโดผู้สูงอายุในไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้ทิศทางของตลาดอสังหาฯ เริ่มพัฒนาที่อยู ... อ่านต่อ...

6 ฟีเจอร์ในบ้านยุคใหม่ ที่ผู้ซื้อมองหา

ความต้องการของผู้ซื้อบ้านในยุคปี 2024 นี้ ก็แตกต่างจากยุคสมัยก่อน ดังนั้น เราจึงตรงปรับฟังก์ชั่นการใ ... อ่านต่อ...