การเช่าบ้านหรือคอนโดนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการอาศัยระยะเวลาไม่ยาวนาน ในพื้นที่ที่ต้องการ ค่าเช่าจะสูงขึ้น และ ตัวเลือกที่น้อยลง ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องรีบร้อนย้ายเข้าอพาร์ทเมนท์ที่ปล่อยเช่าทันที ถ้าคุณกำลังมองหาที่อยู่เพื่อเช่าอยู่ หลีกเลี่ยง 5 ข้อผิดพลาดเหล่านี้ในฐานะผู้เช่า ที่อาจจะทำให้คุณทั้ง เสียเวลา เสียเงิน และ เสียอารมณ์ได้

1. ไม่อ่านสัญญา

สัญญาเช่าทั้งหลายไม่ได้สร้างขึ้นมาอย่างเป็นธรรมเท่ากันทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสัญญาที่คุณเซ็นชื่อลงไปแล้วนั้น คุณอาจจะเจอกับปัญหาในระหว่างการเช่าอาศัยอยู่ได้

คุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ ขั้นตอนการต่อสัญญา ข้อตกลงในการเช่าอาศัย ข้อห้าม ต่างๆที่อาจจะระบุไว้ในสัญญา เพื่อประโยชน์ของคุณเอง

2. คิดว่าเจ้าของ(ผู้ให้เช่า)ควรจะซ่อม

หลอดไฟเสีย? ตู้เย็นพัง? ไม่มีปัญหา ก็แค่โทรเรียกเจ้าของ เดี๋ยวเขาก็มาซ่อมเองละ ใช่ไหม?

ไม่เสมอไปหรอกนะ คนเช่าส่วนใหญ่นั้นไม่รู้ว่า เจ้าของ ไม่จำเป็นต้องซ่อมข้าวของเครื่องใช้บางอย่าง เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ เพราะของใช้เล็กๆที่พังหรือเสียหายไม่ถือว่าเป็นการซ่อมแซ่มหลัก เช่น ท่อน้ำ เครื่องทำน้ำร้อน หรือ อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งในหลายประเทศนั้น เจ้าของไม่มีข้อผูกมัดทางกฏหมายที่จะต้องซ่อมข้าวของเครื่องใช้เล็กๆ

แน่นอนว่า เจ้าของบ้านที่ดีบางส่วนก็อาจจะซ่อมแซมให้ แต่เพื่อประโยชน์ของคุณเองในฐานะผู้เช่า คุณก็ควรที่จะถามเรื่องนี้ให้กระจ่างเช่นกัน ดูในสัญญาเช่า และตกลงกับเจ้าของผู้ให้เช่าให้เรียบร้อย และต้องทำให้แน่ใจว่า ในสัญญานั้นไม่มีการระบุว่า ผู้ให้เช่าจะไม่ซ่อมแซมของใช้ใดๆหากเกิดการเสียหายขึ้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วละก็ ระมัดระวังการเช่าบ้านที่สภาพเก่า หรือของข้าวเครื่องใช้ที่เก่าซะหน่อย

3. ไม่มีการบันทึกความเสียหาย

ผู้เช่าส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยที่จะ ทำการบันทึกความเสียหาย ของสภาพอสังหาฯ ก่อนที่พวกเขาจะย้ายเข้ามา แต่รูปภาพที่ระบุวันเวลาถ่ายความเสียหายของอสังหาฯซึ่งมีอยู่แล้วก่อนการย้ายเข้ามาอาศัยนั้น เป็นหลักฐานอย่างดีที่ คุณสามารถได้เงินมัดจำคืนมาอย่างครบถ้วน จากเจ้าของบ้านที่พยายามจะเอาเปรียบคุณ

สังเกตความเสียหายของอสังหาฯก่อนจะย้ายเข้ามา และถ่ายรูปไว้ ทั้ง รอยเปื้อนบนพรม รูบนกำแพง คราบบนผนัง รอยแตกที่กระเบื้อง และอื่นๆ คุณอาจจะจดรายละเอียดความเสียหายเหล่านี้ บันทึกไว้และให้เจ้าของผู้ปล่อยเช่าทำการเซ็นรับรู้เอาไว้ ก็ช่วยได้เช่นกัน

4. สัญญาปากเปล่า

ถ้าเจ้าของผู้ให้เช่าบอกกับคุณว่า เขาจะทำอะไรสักอย่าง เช่น จะซ่อมแอร์ให้หลังจากที่คุณย้ายเข้ามาอยู่แล้ว อย่าเพิ่งตกลงจากเพียงคำพูดของเขา เขียนให้เป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าของจะจำแม่นขึ้น ถึงสิ่งที่พวกเขาเคยพูดไว้กับคุณ

หากเจ้าของเพียงแค่สัญญาปากเปล่าอะไรกับคุณไว้ ตอนที่คุยกันก่อนการย้ายเข้ามา เช่น จะต่อสัญญาให้ต่อท้ายปีแน่ๆ หรือ จะไม่ขึ้นค่าเช่าหรอกนะ  คุณอาจจะเผชิญปัญหาหนักที่จะพิสูจน์คำพูดลอยๆในศาล หากเรื่องบานปลายไปถึงศาล  

5. ไม่สำรวจละแวกเพื่อนบ้าน

อย่าพลาดคิดว่าพื้นที่รอบๆนั้นจะเหมือนๆกันหมด เว้นเสียแต่ว่าคุณเติบโตมาในละแวกนี้ คุณควรที่จะเดินสำรวจพื้นที่รอบๆ ทางเข้าออกถนนเป็นอย่างไร ชุมชนเป็นอย่างไร ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน หากดูแล้วมันทะแม่งๆ คุณจะได้ไม่ต้องคอยเจอปัญหาภายหลัง หรืออยู่อย่างหวาดระแวง

ข้อมูลจาก:realtor.com

แปลและเรียบเรียงโดย BaanFinder.com เว็บค้นหาอสังหาฯและลงประกาศขาย/ให้เช่าฟรี  

ชอบบทความนี้ กดLIKE และ แชร์สาระดีดีนี้ จากช่องทางด้านล่างได้เลยค่ะ :D