ลาวร่วมวงบี้"จีน"ต่อรองรถไฟฟ้า3ประเทศ เจรจาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ3%-ไทยผงะเงินลงทุนทะลุ4แสนล้าน

แชร์บทความนี้

รถไฟไทย-จีน เงินลงทุนพุ่งทะลุ 4 แสนล้านบาท คมนาคมเตรียมจ้างที่ปรึกษาตรวจสอบแบบรายละเอียดและผลตอบแทนด้านการเงิน จับตารัฐบาลไทย-สปป.ลาว ผนึกกำลังเจรจาจีนขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่า 3% เพิ่มระยะปลอดหนี้ หวังลดภาระในระยะยาว "รัฐบาลประยุทธ์" รอลุ้นผลประชุมครั้งที่ 8 เมืองปักกิ่ง หลังจีนยอมผ่อนปรนดอกเบี้ยลงเหลือ 2.5% เล็งใช้โมเดลอินโดนีเซียมาเป็นต้นแบบต่อรอง


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 27-28 ตุลาคม 2558 จะมีประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 8 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน จะมีการพิจารณาแบบรายละเอียดที่จีนส่งผลศึกษาความเหมาะสมให้ รูปแบบลงทุน เงื่อนไขวงเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งฝ่ายไทยอยู่ระหว่างเจรจากับฝ่ายจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ย คาดว่าครั้งนี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น



ทั้งโครงการลงทุนกว่า 4 แสนล้าน

อย่างไรก็ตาม สนข.ศึกษาความเหมาะสมของโครงการช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยผลศึกษาที่ออกมาได้ข้อสรุปว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2.4 แสนล้านบาทรวมค่าเวนคืนที่ดินประมาณ 5,000 ล้านบาท


สำหรับเส้นทางช่วงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟไทย-จีนช่วงหนองคาย-นครราชสีมา-ท่าเรือมาบตาพุดระยะทาง737 กิโลเมตร


โดยจะมีจุดเชื่อมระหว่างรถไฟไทย-ลาวอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1จ.หนองคาย จะสร้างสะพานใหม่บริเวณท้ายน้ำ (มุ่งหน้าเวียงจันทน์อยู่ขวามือ) ห่างจากจุดเดิม 30 เมตร เพื่อวางราง 1.435 เมตร รองรับรถไฟความเร็วปานกลาง 160 กิโลเมตร/ชั่วโมงจะวิ่งเชื่อมกัน 3 ประเทศ คือ จีน ลาวและไทยในอนาคต


แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาฝ่ายจีนส่งผลการศึกษาโครงการรถไฟไทย-จีนช่วงนครราชสีมา-หนองคายกับช่วงแก่งคอย-มาบตาพุดใหักระทรวงคมนาคมแล้วซึ่งส่งก่อนกำหนดจากเดิมเดือนพฤศจิกายนนี้แต่ยังเป็นผลศึกษาของฝ่ายจีน ขณะนี้ทางฝ่ายไทยจะต้องนำมาตรวจสอบรายละเอียดก่อนถึงจะสรุปได้


โดยจะจ้างบริษัทที่ปรึกษาตรวจสอบผลการศึกษาทั้งโครงการ เช่น ประมาณการราคามูลค่าการก่อสร้างโครงการ ประมาณการรายได้จากการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร เป็นต้น รวมถึงจะต้องจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน มาพิจารณารูปแบบการลงทุนและผลตอบแทนโครงการอีกด้วย


"เงินลงทุนฝ่ายจีนเสนอมารวมทั้งโครงการมีมูลค่าเกิน4แสนล้านบาท และเกินจากที่ฝ่ายไทยเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4 แสนล้านบาท เนื่องจากช่วงกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมาที่จีนส่งผลศึกษาให้ก่อนหน้านี้มีก่อสร้างอุโมงค์และสะพาน จึงทำให้ต้นทุนก่อสร้างแพง โดยมีค่าก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 2.3 แสนล้านบาท"


จีนเสนอดอกเบี้ยกู้ 2.5%


แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนอัตราดอกเบี้ย ล่าสุดในการหารือนอกรอบ ฝ่ายจีนจะลดให้ต่ำกว่า 3% โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5% ยังไม่รวมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน หากรวมแล้วคาดว่าอยู่ที่กว่า 3% จากเดิมจีนเสนอวงเงินกู้มา 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.4 แสนล้านบาทผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน (CEXIM) เสนออัตราคงที่ 2.75% ต่อปี อายุเงินกู้ไม่เกิน 20 ปี รวมระยะปลอดหนี้ 5-7 ปี เมื่อรวมความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 3.28%


"ทั้งนี้ยังไม่เป็นที่ยุติ จะต้องมีการต่อรองและจะต้องรอสรุปเป็นทางการอีกครั้งในการประชุมครั้งที่ 8 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่จีนเสนอมานั้นถือว่ายังสูงกว่าเงินกู้ในประเทศไทย รวมถึงยังมีเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น ระยะเวลากู้แล้วปลอดหนี้ วงเงินที่จะกู้ เป็นต้น โดยการประชุมครั้งที่ 7 ฝ่ายจีนยืนยันจะให้แหล่งเงินกู้ เงื่อนไข และอัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดกับไทย โดยอาจจะนำเงื่อนไขที่จีนให้ประเทศอินโดนีเซียมาประกอบการพิจารณาด้วย"


แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับแผนงานก่อสร้างระยะแรกกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา อาจจะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนแผนงานการก่อสร้างออกไปจากเดิมธันวาคมนี้ เพื่อรอผลการศึกษาโครงการที่สมบูรณ์ทั้งงานโยธา รูปแบบการลงทุนและผลตอบแทนทางด้านการเงิน


ขณะเดียวกันในการประชุมครั้งที่ 7 ที่ผ่านมาทางรัฐบาลไทยมีข้อเสนอให้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่ายระหว่างรัฐบาลไทย-จีน-ลาว เพื่อเร่งสรุปถึงการพัฒนารถไฟรางมาตรฐาน 1.435 เมตรจะเชื่อมกัน 3 ประเทศในอนาคต


ลาวขอจีนลดดอกเบี้ยต่ำกว่า 3%

นายสอนศักดิ์ นะนันสะนะ รองผู้ว่าการการรถไฟ สปป.ลาว กล่าวว่า ความคืบหน้าความร่วมมือพัฒนารถไฟจีน-ลาว ซึ่งจะสร้างจากชายแดนจีนผ่านหลวงน้ำทา เมืองไชย หลวงพระบางมายังเวียงจันทน์ มีระยะทาง 417 กิโลเมตร เงินลงทุน 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 2.3 แสนล้านบาท โดยเป็นการร่วมลงทุนของทั้ง 2 รัฐบาล โดยจีนลงทุน 70% สปป.ลาวลงทุน 30% มีบริษัทที่จีน-ลาวตั้งขึ้นมาบริหารการเดินรถ ระยะเวลา 50 ปี


ขณะนี้รัฐบาลลาวกำลังเจรจาจีนขอปรับลดเงื่อนไขเงินกู้ จากข้อเสนอเดิมที่จีนเสนออัตราดอกเบี้ย 3% ซึ่งทางรัฐบาลลาวอยากได้ในอัตรดอกเบี้ยถูกกว่า เหมือนที่จีนกำลังจะให้รัฐบาลไทย เนื่องจากโครงการใช้เงินลงทุนสูง


โดยการก่อสร้างจะใช้รางขนาด 1.435 เมตร มี 31 สถานีรวมทั้ง 5 สถานีหลัก วิ่งผ่านอุโมงค์ 76 แห่งที่มีความยาวรวม 195.78 กิโลเมตรและสะพาน 154 สะพาน ที่มีความยาวรวม 67.15 กิโลเมตร


เปิดโมเดลไฮสปีดอินโดนีเซีย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ทางรัฐบาลไทยและ สปป.ลาวกำลังเจราจากับรัฐบาลจีนเพื่อก่อสร้างรถไฟรางมารตรฐาน 1.435 เมตร เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและการค้าของ 3 ประเทศ คือ ไทย-ลาว-จีน ล่าสุดวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้มีการลงนามสัญญาก่อสร้างกับจีน เพื่อก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสายแรกของประเทศอินโดนีเซีย วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเป็นการก่อสร้างเฟสแรก มีระยะทาง 160 กิโลเมตร วิ่งเชื่อมจากเมืองหลวงกรุงจาการ์ตา-เมืองบันดุง มี 8 สถานี มูลค่าโครงการ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 174,304 ล้านบาท


โดยเป็นการลงทุนระหว่างบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ซีอาร์ไอ) ของรัฐบาลจีนสัดส่วน 40% โดยธนาคารการพัฒนาจีน (ซีดีบี) ของรัฐบาลจีน จะสนับสนุนเงินทุน 75%


ส่วนที่เหลือมาจากบริษัทการรถไฟแห่งหนึ่งของจีน กับกลุ่มบริษัทร่วมทุนของรัฐบาลอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2559 และแล้วเสร็จปี 2561


ข้อมูลจาก:prachachat.net

แชร์บทความนี้


บทความยอดนิยม


บทความใหม่ล่าสุด

เช่าคอนโดครั้งแรก คำแนะนำ สำหรับผู้เช่ามือใหม่

การ เช่าคอนโด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ไม ... อ่านต่อ...

5 วิธีที่ห้องนอนของคุณทำลายการนอนหลับของคุณ

การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดี แต่บ่อยครั้งที่เรามักมองข้ามปัจ ... อ่านต่อ...

พาส่อง 4 โครงการใหญ่ ใกล้เปิดตัวในกรุงเทพฯ -ปริมณฑล

การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ มักจะผูกพันกับศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ... อ่านต่อ...

คอนโดผู้สูงอายุ ดีไหม พร้อมแนะนำ 5 คอนโดผู้สูงอายุในไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้ทิศทางของตลาดอสังหาฯ เริ่มพัฒนาที่อยู ... อ่านต่อ...

6 ฟีเจอร์ในบ้านยุคใหม่ ที่ผู้ซื้อมองหา

ความต้องการของผู้ซื้อบ้านในยุคปี 2024 นี้ ก็แตกต่างจากยุคสมัยก่อน ดังนั้น เราจึงตรงปรับฟังก์ชั่นการใ ... อ่านต่อ...