ลองทำตามคำแนะนำในการตกตแ่งห้องนั่งเล่นเหล่านี้ คุณก็สามารถที่จะสร้างสรรค์พื้นที่แสนสบายที่สะท้อนสไตล์ของคุณ
ไม่ว่าสไตล์ของคุณจะเป็นแบบคลาสสิกหรือโมเดิร์น สบายหรือเนี๊ยบ ห้องนั่งเล่นของคุณก็ควรจะเป็นพื้นที่ ที่ทำให้คุณรู้สึกสบาย เป็นตัวของตัวเอง และได้ใช้เวลาร่วมกับเพื่อน ครอบครัว หรือกับตัวเอง มันมีความเป็นศิลปะไม่น้อยสำหรับการตกแต่งห้องที่ดูดีและเข้ากันได้กับคุณ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตกแต่งห้องนั่งเล่นของคุณ ลองอ่านคำแนะนำจากนักออกแบบเหล่านี้ดูก่อน
1. ผสมสีอ่อนกับสีเข้ม
เวลาที่ห้องนั่งเล่นของคุณเป็นสีขาวโพลน หรือเต็มไปด้วยสีอ่อนๆ สว่างๆ ก็ทำให้รู้สึกสะอาดแต่ก็ดูไม่กล้าเข้าถึงเท่าไร พอทำสีให้เข้มไปซะหมดก็กลายเป็นถ้ำไปซะอย่างงั้น ลองผสมการแต่งห้องให้มีทั้งสีอ่อนและสีเข้ม จะช่วยให้ห้องดูมีมิติและมีบาลานซ์มากขึ้นด้วย
2. เล่นกับลักษณะพื้นผิว (Texture)
ลักษณะพื้นผิวหรือ Texture มักจะถูกมองข้ามไปเมื่อตกแต่งห้องนั่งเล่น โดยเฉพาะเมื่อเราไม่เห็นถึงลักษณะของมันเท่ากับที่เราได้สัมผัสมัน แต่การที่จะทำให้ห้องนั่งเล่นรู้สึกสบายน่าอยู่ ลักษณะของเนื้อผ้าก็มีส่วนสำคัญมาก ลองคิดถึง texture อย่าง หนัง ผ้าฝ้าย ขนสัตว์ เหล็ก หิน กระจก พืช กำมะหยี่ หรือ texture อะไรที่คุณนึกออกดู เริ่มที่หมอนในห้องนั่งเล่น โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังจะตกแต่งห้องนั่งเล่นด้วยงบที่จำกัด ลองมองหาของตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์เพื่อเพิ่มวัสดุใหม่ๆ ที่จะเข้าได้ดีกับห้องนั่งเล่นของคุณ แม้ว่าจะเป็นปริมาณเล็กๆ
3. ใช้ไม้ในการออกแบบ
ถ้าเราพูดถึง Texture และไม่ได้พูดถึงไม้ก็คงจะไม่ได้ “ไม้” นับเป็นหนึ่งในวัสดุสุดฮิตที่ช่วยนำเอาความรู้สึกอบอุ่นมายังห้องนั่งเล่น และก็มีวิธีมากมายที่จะนำเอา texture ไม้เข้ามาใช้ในการตกตแ่งห้องนั่งเล่นเพื่อให้รู้สึกถึงความเชื้อเชิญ น่าอยู่ เช่น ผนังไม้หลังทีวี โต๊ะข้าง เก้าอี้ตัวเล็ก กรอบรูป ขาเก้าอี้ หรืองานศิลปะต่างๆ เป็นต้น
4. คละรูปแบบของผ้าคลุมโซฟาบ้าง
แน่นอนว่า เวลาที่คุณไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่นั่ง ร้านก็มักจะให้ทางเลือกที่เป็นการออกแบบสำเร็จรูปมาให้คุณแล้ว คือรูปแบบชุดที่นั่ง ด้วยเนื้อผ้าที่เหมือนกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณควรที่จะเลือกตามที่ร้านจัดไว้ ในห้องนั่งเล่นที่ดูเป็นทางการหน่อย คุณอาจจะอยากทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่และมีระเบียบ แต่ถ้าคุณอยากได้ห้องนั่งเล่นที่รู้สึกผ่อนคลายได้ น่าอยู่ ลองคละแบบผ้าของที่นั่งในห้องนั่งเล่นเพื่อสร้างสรรค์ความมีตัวตน มีบุคลิกภาพเข้าไปในห้องนั่งเล่นบ้าง
ทางที่ปลอดภัยที่สุดคือการใช้โซฟาหนังควบคู่ไปกับโซฟาผ้า หรือลองวัสดุที่ตัดกันอย่างจงใจ ซึ่งแบบนี้ ก็จะช่วยให้ห้องนั่งเล่นมีการออกแบบที่มีความหลากหลาย และยังให้คนในครอบครัวได้มีตัวเลือกที่แต่ละคนชอบอีกด้วย
5. เลือกเนื้อผ้าที่ใช้งานได้จรืง
เมื่อเราพูดถึงเรื่องของเนื้อผ้าของที่นั่งในห้องนั่งเล่น มันสำคัญที่จะคิดถึงไม่เพียงแต่ความสบายแต่ต้องมองถึงความทนทานด้วยเช่นกัน ซึ่งนิยามเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัว คุณอาจมีเด็กเล็กในบ้าน มีสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงในบ้าน ซึ่งอาจจะเรียบร้อยหรืออาจจะทำให้ห้องเละได้ แต่โดยทั่วไป เนื้อผ้าโทนกลางๆก็เป็นตัวเลือกปลอดภัย เพราะถ้าสีที่สว่างมากไปหรือเข้มมากไปก็จะเห็นรอยต่างๆ ได้ง่าย
หนัง เป็นวัสดุที่ดีเยี่ยมที่จะหลีกเลี่ยงรอยเปื้อนต่างๆ เพราะว่าเราสามารถทำความสะอาดออกได้อย่างง่ายได้เพียงแค่เช็ดออก ถ้าใครทำน้ำอะไรหกลง อย่างไรด็ตาม หนังก็จะมีรอยข่วนได้ง่ายกว่าเนื้อผ้าอื่นๆ และก็ไม่ทนกับสัตว์เลี้ยงซะเท่าไร
ผ้าเดนิม (Denim) และผ้าลูกฟูก (Curduoy) นับเป็นสองเนื้อผ้าที่ดูน่าเชื้อเชิญ และก็ยังทนทานอีกด้วย แถมยังช่วยสร้างความประหลาดใจในงานออกแบบมากกว่าการใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าขนสัตว์ที่เรามักจะเห็นกันทั่วไปในร้านขายเฟอร์นิเจอร์
เมื่อคุณเลือกเนื้อผ้าของที่นั่งสำหรับห้องนั่งเล่นของคุณ ลองมองหาการผสมผสานของทั้งวัสดุแท้และเนื้อผ้าสังเคราะห์ เพื่อที่จะดึงเอาส่วนที่สามารถใช้งานได้จริงของเนื้อผ้าเหล่านั้นมาใช้ ถ้าเป็นไปได้ ลองเอาเนื้อผ้ามาดูก่อนเพื่อให้แน่ใจว่า เนื้อผ้ามีการถักเย็บที่ดี ไม่ด้อยคุณภาพ เนื้อผ้าที่มีการถักร้อยแน่นมากก็จะทำให้คงทนมากกว่าหารถักแบบหลวมๆ ซึ่งทำให้มีช่องว่างสำหรับสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปได้
6. ใส่สีสัน
ในขณะที่คุณอาจจะสร้างพื้นที่ที่สวยงามได้โดยที่ไม่ต้องใช้สีสันที่เจิดจ้ามาก แต่การใช่สีสันสักเล็กน้อยเข้าไปในห้องนั่งเล่นก็เป็นจุดเริ่มต้นดีๆ สู่การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายแบบสนุกสนานน่าเชื้อเชิญ
ถ้ายังไม่แน่ใจลองใช้สีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นสีที่ทุกคนมักจะยอมรับได้ และมันก็ตัดกันดีกับองค์ประกอบร้อน อย่างเช่น หนัง และ ไม้ สีฟ้ายังให้ความเรียบง่ายพอที่จะเข้าได้กับเฟอร์นอเจอร์สีอื่นๆ อีกด้วย
7. เลือกที่นั่งและโต๊ะที่สามารถเคลื่อนที่ได้
โต๊ะเบาๆ ที่นั่งแบบที่ไม่มีพนักพิงขนาดเล็กๆ หรือเก้าอี้ด้านข้าง ที่สามารถจะเคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวกในห้องนั่งเล่น ก็ทำให้ห้องดูน่าสบาย และให้ทางเลือกในการใช้วางเท้า หรือวางแก้วกาแฟ หรือเปนที่นั่งเหมือนคนเยอะในห้องนั่งเล่นก็ได้ด้วย ลองใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก อย่างพวกที่วางเท้า เพื่อเชื่อมต่อเฟอร์นิเจอร์ที่นั่งหลักๆ ในห้องนั่งเล่น
8. คำนึงถึงระยะการสนทนา
ไม่ว่าห้องนั่งเล่นของคุณจะใหญ่ขนาดไหน แต่ขนาดของที่นั่ง เพื่อให้คนรวมกลุ่มกันเพื่อนั่งคุยกันได้ก็มีจำกัดเหมือนกัน และระยะที่ดีของเก้าอี้เพื่อจะสนทนาได้คือระยะเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.4 เมตร หรือ 1.2 เมตรจากจุดที่เป็นศูนย์กลาง
โซฟาขนาดใหญ่ 12 ที่นั่งก็ดูดีและเหมาะสมสำหรับการจัดงานปาร์ตี้ แต่ถ้าคุณมองหาห้องนั่งเล่นที่เป็นกันเองและใกล้ชิดอีกนิด มันก็ดีกว่าที่จะใช้ที่นั่งขนาดเล็ก วางใกล้ๆ กัน
9. อย่าจริงจังมากเกินไป
ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ที่ดีในการนำเอาความยุ่งเหยิงที่ดีเล็กๆ น้อยๆ เช้ามาใส่ไว้ เช่น ผนังที่แขวนโชว์กรอบรูป การจับ mix-and-match หมอน หรือเปิดพื้นที่ให้เฟอร์นิเจอร์ที่ดูน่าสนใจ และแปลกใหม่
ถ้าคุณแต่งห้องนั่งเล่นอย่างมีระเรียบ ไร้ที่ติ นั่นหมายความว่า อะไรที่โดเด่นเกินไปจะดูประหลาดทันที ในขณะที่การยอมรับความไม่เป็นระเบียบบ้าง ก็ทำให้ของเล่นที่วางบนพื้นหรือผ้าห่มที่วางไว้บนโซฟา ก็ดูและให้ความรู้สึกเหมือนกับ “บ้าน” มากกว่า
แล้วคุณล่ะ? มีไอเดียการแต่งห้องนั่งเล่นขนาดเล็กอย่างไรให้ดูน่าอยู่และกว้างขึ้น หรือมีวิธีอย่างไรบ้างที่จะทำให้ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ดูอบอุ่นมากขึ้น แชร์บทความและความคิดเห็นของคุณกันเลย
บทความนี้แปลและเรียบเรียงโดย BaanFinder.com