ไอเดียแขวนรูปภาพ แต่งบ้านให้น่าอยู่

แชร์บทความนี้

บ้านที่มีรูปภาพบอกเล่าเรื่องราว ช่วยทำให้บ้านเป็น “บ้าน” ที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในยุคนี้ เราต่างมีมือถืออยู่กับตัวตลอดเวลา และสามารถถ่ายเก็บเหตุการณ์ และความทรงจำต่างๆ มากมาย เรายังสามารถเปลี่ยนรูปถ่ายในมือถือเป็นภาพบนกำแพง แขวนเหมือนเป็นศิลปะในการแต่งบ้านได้อย่างง่ายดาย  


สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่า จะเลือกรูปหรือจัดวางรูปภาพในบ้านอย่างไรให้สวย น่าดู วันนี้ บ้านไฟน์เดอร์ พาดูไอเดียแต่งบ้าน ด้วยรูปภาพครอบครัว หรือรูปถ่ายจากมือถือ เปลี่ยนกำแพงว่างเปล่าให้มีศิลปะที่น่าสนใจกัน 


เลือกรูปภาพอย่างไร


เลือกภาพที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข ดูแล้วผ่อนคลาย คุณอาจจะเลือกรูปภาพ candid ของลูกๆ ตอนที่หัวเราะ ภาพรอยยิ้มสวยๆ ของคนรัก หรือคนในครอบครัว ภาพถ่ายสถาปัตยกรรมที่คุณชื่นชอบ หรือ ภาพสถานที่ประทับใจจากทริปท่องเที่ยวของคุณ 


Tip แนะนำ: หากคุณต้องการวางรูปภาพมากกว่า 1 รูป พยายามทำให้รูปภาพแชร์องค์ประกอบที่เหมือนกันบางอย่างเพื่อให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน องค์ประกอบนั้น อาจจะเป็น โทนสีของภาพ สีของกรอบรูป หรือขนาดของรูปภาพ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะใช้รูปภาพหลายรูปหลายขนาดได้ ถ้าคุณปรับโทนสีเป็นภาพขาวดำทั้งหมด เป็นต้น


แขวนรูปภาพที่ไหนดี 


รูปภาพ สามารถเป็นจุดเริ่มต้นบทสนทนา และบอกเล่าเรื่องราว การใช้ชีวิตของคนในบ้านได้ คนส่วนใหญ่จึงมักเลือกแขวนรูปภาพไว้ในห้องนั่งเล่น และห้องรับแขก บนโซฟา แต่ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน คุณก็อาจจะเลือกพื้นที่ๆ เป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย อย่างเช่น ห้องนอน หรือทางเดินชั้นบนของบ้านก็ได้ 

  

Tip แนะนำ: รูปภาพบางรูปเหมาะกับการวางไว้ในห้องส่วนตัว อย่างรูปภาพ topless ตอนตั้งครรถ์ของคุณอาจจะไม่เหมาะที่จะวางในห้องรับแขก คิดแบบนี้ว่า รูปภาพชุดว่ายน้ำ หรือภาพที่แสดงความใกล้ชิดแบบโรแมนติก อาจจะเหมาะในห้องที่เป็นส่วนตัวมากกว่า  



เลือกขนาดกรอบรูปอย่างไร

ก่อนเลือกขนาดของกรอบรูป ให้เราวัดขนาดพื้นที่กำแพงที่จะติดตั้งรูปภาพทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ถ้าเราจะวางรูป เหนือ เตียงนอน โต๊ะ หรือ โซฟา ให้เราวัดแนวตั้งจากด้านบนของเฟอร์นิเจอร์นั้นไปถึงเพดาน กฎโดยทั่วไป คือ ขนาดรูปควรกว้างอยู่ประมาณ 75% ของความกว้างเฟอร์นิเจอร์ (บวกลบไม่เกิน 10%) เช่น โซฟาของคุณ มีความกว้างอยู่ 77 นิ้ว (195 ซม.) รูปภาพของคุณควรกว้างประมาณ 58 นิ้ว (146 ซม.) ภาพที่ใหญ่เกินไปอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์คุณดูเล็ก และภาพที่เล็กเกินไปอาจทำให้มีพื้นที่ว่างเหลือเยอะมากไป และควรเผื่อพื้นที่ 6-12 นิ้วเหนือเฟอร์นิเจอร์  



>> อยากสร้างแคนวาสแต่งบ้านเป็นของตัวเองแล้วใช่มั้ย คลิกเริ่มเลย <<


ไอเดียจัดวางรูปภาพ แต่งบ้านให้มีสไตล์


1. การวางรูปภาพเดียว ขนาดใหญ่ (Single)

วางภาพขนาดใหญ่ภาพเดียว ช่วยทำให้ห้องมีจุดโฟกัสที่โดดเด่น น่าสนใจ และทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก โดยการวางภาพเดียว คุณควรมีพื้นที่กำแพงที่เพียงพอสำหรับรูปภาพ และพื้นที่หายใจรอบๆ รูปภาพด้วย เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดจนเกินไป ข้อพิจารณาในการวางภาพขนาดใหญ่ คือ น้ำหนักของภาพ และการติดตั้ง รวมทั้งการขนส่งรูปภาพขนาดใหญ่ ที่อาจจะท้าทายสักหน่อย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการจัดส่งอย่างมืออาชีพ 


2. วางภาพ 3 ตอน (triptych

ถ้าคุณชื่นชอบการถ่ายภาพทางสถาปัตยกรรม การวางภาพตึก หรือภาพเมืองที่คุณชื่นชอบ ก็ช่วยทำให้กำแพงบ้านดูน่าสนใจขึ้นมาไม่น้อย แนะนำให้เลือกใช้องค์ประกอบเหมือนๆ กัน ในการจัดวาง 3 ภาพ เช่น กรอบรูปที่เหมือนกัน โทนสีภาพที่เหมือนกัน และการใช้ white space ที่เหมือนกัน ทำให้ภาพทั้งสามมีความเหมือนที่ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างดี ระมัดระวังช่องว่างของแต่ละภาพให้ห่างกันอย่างพอเหมาะ ประมาณ 2-3 นิ้ว 


หรือคุณยังสามารถเลือกรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวแบบพาโนราม่าที่คุณประทับใจ มาแบ่งตอนเป็น 3 ตอนแบบนี้ ก็ทำให้รูปภาพดูน่าสนใจมากขึ้น


หรือเป็นรูปภาพของลูกๆ ของคุณในห้องรับแขกแบบนี้ 


3. วางเรียงเป็นเส้นตรง (Linear)

วางกรอบรูปภาพเป็นเส้นตรงแถวเดียว ไม่ว่าจะในแนวนอนหรือแนวตั้ง เหมาะสำหรับรูปภาพที่มีขนาดและกรอบรูปที่เหมือนกัน ช่วยให้เกิดความรู้สึกสมดุล การวางรูปเรียงยาวในแนวนอนจะเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณมีพื้นที่กำแพงที่กว้างโล่ง และยังช่วยเน้นความยาวของห้องได้อย่างดีอีกด้วย



4. วางแบบกริด (Grid)

การวางแบบกริด คือ การแขวนรูปภาพในแนวนอนและแนวตั้งอย่างสมมาตร วิธีนี้เหมาะสำหรับการวางโชว์รูปภาพหลายรูป โดยควรเลือกใช้กรอบรูปและขนาดของรูปภาพที่เท่ากัน ช่วยให้ผลงานดูสวย เป็นระเบียบ 


ความท้าทายของการวางแบบกริดคือ ภาพต้องวางเรียงเสมอกัน ทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง ดังนั้น ควรวัดตำแหน่งการแขวนอย่างละเอียดในแต่ละภาพ



5. วางภาพแบบกลุ่ม (Cluster)

การวางแบบกลุ่ม ทำให้คุณมีอิสระในการจัดวางมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการจัดแบบอสมมาตร การวางแบบกลุ่มนี้ก็ยังมีความสมดุลอยู่ เหมาะกับการวางภาพหลายขนาด และกรอบรูปที่หลากหลาย  


ข้อระวัง ในการวางรูปภาพแบบกลุ่มคือ ระวังระยะห่างของรูปภาพแต่ละรูปที่อาจทำให้ดูยุ่งเหยิงได้ ควรพยายามเลือกใช้กรอบรูปที่มีความหนาใกล้เคียงกัน เนื่องจากกรอบรูปที่หนาบางไม่เท่ากัน ดูแล้วจะไม่ผ่อนคลาย และไม่สงบ 



6. วางภาพแบบกระจาย 

การวางภาพแบบกระจาย เป็นที่นิยมในสมัยช่วงศตวรรษที่ 18 เป็นลักษณะการวางกรอบรูปใกล้ๆ กันและกระจายทั่วทั้งกำแพง ซึ่งการวางแบบนี้ก็เริ่มกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น เหมาะสำหรับวางบนกำแพงขนาดกว้างและมีเพดานสูง โดยการวางภาพแบบกระจาย ทำให้คุณสามารถเล่นกับขนาดของกรอบรูปได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณมีจำนวนรูปภาพมาก การวางในลักษณะนี้ ช่วยทไให้บ้านดูสบาย และอบอุ่นด้วย 



การแต่งบ้านด้วยรูปภาพ เป็นกระบวนการที่ใช้เวลาสักหน่อย แต่รับรองว่าผลลัพธ์จะช่วยทำให้บ้านของคุณดูมีชีวิตชีวาและมีเอกลักษณ์ของ “บ้าน” เฉพาะคุณ   


Tip แนะนำ: ใช้กระดาษคราฟท์แผ่นใหญ่ เอามาวัดและตัดตามขนาดของกรอปรูปภาพที่ต้องการ จากนั้นใช้เทปกาวนิตโต้ (เทปกาวที่ใช้กับงานศิลปะ) หรือ เทปย่น ที่เป็นมิตรกับกำแะง เพื่อแปะกระดาษเข้ากับกำแพง ใช้ดินสอกำหนดจุดที่จะเจาะตะปูไว้บนกระดาษ ก่อนที่จะลงมือเจาะผนังเพื่อแขวนจริงๆ วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถลองวางและปรับแบบจนกว่าคุณจะได้ลุคที่ต้องการ จากนั้นค่อยดึงเอากระดาษออกและเจาะผนังตามที่กำหนดไว้ 


ภาพถ่ายช่วงเวลาดีๆ ที่เมื่อคุณมองแล้ว นำ “ความสุข” มาให้คุณได้ ควรค่าที่จะนำมาตั้งวางตกแต่งภายในบ้านของคุณ Photobook Thailand มีบริการที่คุณสามารถอัพโหลดจากมือถือของคุณได้เลยง่ายๆ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ


แชร์บทความนี้


Popular Articles


Articles

เช่าคอนโดครั้งแรก คำแนะนำ สำหรับผู้เช่ามือใหม่

การ เช่าคอนโด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ไม ... Continue Reading...

5 วิธีที่ห้องนอนของคุณทำลายการนอนหลับของคุณ

การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดี แต่บ่อยครั้งที่เรามักมองข้ามปัจ ... Continue Reading...

พาส่อง 4 โครงการใหญ่ ใกล้เปิดตัวในกรุงเทพฯ -ปริมณฑล

การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ มักจะผูกพันกับศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ... Continue Reading...

คอนโดผู้สูงอายุ ดีไหม พร้อมแนะนำ 5 คอนโดผู้สูงอายุในไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้ทิศทางของตลาดอสังหาฯ เริ่มพัฒนาที่อยู ... Continue Reading...

6 ฟีเจอร์ในบ้านยุคใหม่ ที่ผู้ซื้อมองหา

ความต้องการของผู้ซื้อบ้านในยุคปี 2024 นี้ ก็แตกต่างจากยุคสมัยก่อน ดังนั้น เราจึงตรงปรับฟังก์ชั่นการใ ... Continue Reading...