ความก้าวหน้างานก่อสร้างของมอเตอร์เวย์ 3 สายทาง ที่กรมทางหลวงทุ่มเม็ดเงินกว่า 1.7 แสนล้านบาท สร้างทางสายใหม่เพื่อเชื่อมการเดินทางไปสู่ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ อาจเสร็จล่าช้าจากที่กำหนดไว้

เนื่องจากติดขัดการเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างโดยเฉพาะการเวนคืนที่ดิน การทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เพิ่มเติม และการจัดหาเอกชนมาลงทุนระบบเก็บค่าผ่านทาง แม้งานก่อสร้างจะเสร็จ แต่เมื่อระบบยังไม่พร้อม จึงทำให้ไทม์ไลน์การเปิดใช้บริการต้องขยับออกไป 1-2 ปี

การก่อสร้างกำลังรุดหน้าไปมาก คือ สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. เงินลงทุน 20,200 ล้านบาท คืบหน้าแล้ว 96.187% ล่าช้าจากแผนงาน 2% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 2562 แต่พร้อมเปิดใช้ในเดือน ก.ค. 2563 จากเดิมปลายปี 2562

รองานติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทางที่กรมทางหลวงเพิ่งจะได้ผู้รับเหมาดำเนินการเมื่อปลายปี 2561 คือ กลุ่มกิจการร่วมค้าทริปเปิ้ล เอสเอฟ ประกอบด้วย บจ.สี่แสงการโยธา (1979), บจ.ฟาติมา อาร์.บี.ดี.เอส อินเตอร์เนชั่นแนล, บจ.เซ็ท กรุ๊ป โซลูชั่น และ บจ.แซม เทคโนโลยี ซัพพอร์ต

สาย “บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา” เป็นมอเตอร์เวย์สายแรกสร้างเป็นทางยกระดับเชื่อมไปสู่ภาคอีสาน และมีระยะทางยาวสุด 196 กม. ใช้เงินลงทุน 84,600 ล้านบาท นับจากวันที่ 3 ส.ค. 2559 “บิ๊กตู่-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกดปุ่มเริ่มการก่อสร้าง

ซึ่งกรมทางหลวงตัดแบ่งการก่อสร้าง 40 สัญญา เพื่อให้โครงการเสร็จตามแผนที่กำหนดไว้ ตามแผนงานงานโยธาจะเสร็จในปี 2562 และเปิดใช้ในปี 2563 แต่เนื่องจากต้องรอการติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทางที่กำลังเปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุน PPP gross cost ระยะเวลา 30 ปี

ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้ากว่า 58% ยังล่าช้าจากแผนงาน 7% งานก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. 2563 กำลังลุ้นจะเปิดบริการทันปลายปี หรือขยับเป็นต้นปี 2564 เนื่องจากต้องรอคัดเลือกเอกชนลงทุน PPP gross cost งานระบบเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งกรมทางหลวงจัดทำแผนงานใหม่จะออกประกาศเชิญชวนภายในเดือน ม.ค. และเปิดขายทีโออาร์ในเดือน ก.พ.นี้

เมื่อเปิดใช้จะเป็นโครงข่ายใหม่แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่น ร่นเวลาเดินทางใน 3 จังหวัด เพียง 127 นาที

ขณะที่สาย “บางใหญ่-กาญจนบุรี” ระยะทาง 96 กม. ที่กรมทางหลวงกำลังเร่งแก้ปัญหาค่าเวนคืนที่ดินที่เพิ่มขึ้นอีก 14,317 ล้านบาท จนทำให้มูลค่าการลงทุนโครงการขยับขึ้นตามไปด้วย จาก 55,420 ล้านบาท เป็น 64,717 ล้านบาท

ล่าสุดมีความชัดเจนแล้ว หลังจากติดปัญหาค่าเวนคืน จนผู้รับเหมาไม่สามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ จนส่งผลกระทบต่อการเปิดใช้จะขยับจากปี 2564 เป็นปี 2565 หลุดเป้าจากเดิมจะสร้างเสร็จปลายปี 2562 เปิดใช้ในปี 2563

ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้า 17.9% ล่าช้าจากแผนงานอยู่ 41.766% คาดว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค. 2564 ส่วนงานระบบจะเปิดประมูลพร้อมสายบางปะอิน-โคราช ในเดือน ก.พ.นี้