ผู้ปล่อยอสังหาฯให้เช่าทุกคน ยังไงๆก็ต้องเจอ ผู้เช่าแย่ๆ เข้าจนได้ ถ้าคุณเป็นเจ้าของบ้านเช่า และยังไม่เจอผู้เช่าแย่ๆสักคน ไม่ต้องกังวลไป คุณจะได้เจอ! แล้วผู้เช่าที่แย่นี่เป็นอย่างไรนะ ผู้เช่าที่แย่ ก็คือผู้เช่าที่จ่ายค่าเช่าล่าช้า เถียงทุกอย่างที่คุณพูด สร้างความเสียหายให้กับบ้านเช่า รบกวนละแวกเพื่อนบ้าน ปล่อยให้ลูกๆของพวกเขาสร้างงานศิลปะบนกำแพง และโกหกคุณบ่อยครั้ง

คุณอาจจะยังไม่ใช่เจ้าของบ้านเช่า แต่อาจเป็น คนที่ต้องดูแล ผู้เช่าบ้าน ทั้งหลายละก็ อ่านบทความนี้ต่อไปได้เลย (หรือถ้าคุณกำลังคิดจะเริ่มทำธุรกิจอพาร์ทเมนท์/หอพัก เราก็แนะนำให้อ่านไว้ก่อน) วันนี้ บ้านไฟน์เดอร์นำเสนอ วิธีเหล่านี้ จากประสบการณ์การเป็นเจ้าของบ้านเช่ากว่า 6 ปี จาก blog ของ Brandon Turner มีอะไรบ้าง ที่เรานำมาปรับใช้ได้ มาดูกันเลย  

Tip 1: ตรวจสอบก่อน ดีกว่าเสียใจทีหลัง

วิธีแรกในการรับมือกับผู้เช่าแย่ๆ ที่ง่ายและชัดเจนที่สุดก็คือ การที่ไม่ต้องรับเข้ามา เมื่อคุณปล่อยอสังหาฯของคุณให้ใครก็ตามเช่า คุณควรที่จะมีการตรวจสอบที่พอเหมาะ ไม่ว่าจะสอบถาม อาชีพการงาน ฐานเงินเดือน ที่อยู่ปัจจุบัน หรือ อาจจะสอบถามจากเจ้าของบ้านเช่าจากที่ผู้เช่าเคยอยู่ก็ได้

ผู้เช่าส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าพวกเขาสามารถมีกำลังจ่ายได้เท่าไร อย่างน้อยๆราคาเช่าก็ควรจะไม่สูงไปกว่า 1ใน3 ของเงินรายได้ นี่เป็นวิธีมาตราฐานที่หลายสำนักใช้ในการคัดเลือกผู้เช่า ที่สำคัญอย่าไปกลัวที่จะปฎิเสธผู้เช่าสักคน และ รอผู้เช่าที่ดีกว่า

Tip 2: ลงลายลักษณ์อักษร

มันยากที่จะทำตามกฏเมื่อไม่มีกฏให้ปฏิบัติตาม แน่นอนว่า สัญญาเช่า เป็นขั้นตอนแรกในการลงลายลักษณ์อักษรที่แน่ชัด แต่คุณอาจจะสร้างเอกสาร ข้อกำหนดในการอยู่อาศัย เป็นกระดาษ A4 เคลือบใส แปะเอาไว้สักแผ่น ในบ้านหรือห้องเช่าที่สังเกตุได้ง่าย

ถ้าค่าเช่าต้องจ่ายทุกๆวันที่ 1 ของเดือน ก็เขียนบอกเอาไว้และให้ผู้เช่าเซ็นสัญญาเช่าที่มีการเขียนบอกกำกับวันจ่ายค่าเช่าอย่างชัดเจนด้วย อย่าเป็นเจ้าของบ้านเช่า ที่แค่มาทักทายและแสดงให้ผู้เช่าคิดว่า การเป็นเจ้าของบ้านเช่าเป็นเพียงแค่เรื่องเล่นๆ เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ทำให้เป็นลายลักษณ์อักษร แสดงให้ผู้เช่าเห็นว่าคุณมืออาชีพ

TIp 3: เข้มงวด และเป็นมืออาชีพ

เรื่องแย่ๆที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับผู้เช่า ส่วนใหญ่แล้ว (เสียใจที่จะต้องพูดแบบนี้ แต่) ล้วนเกี่ยวข้องกับ ความผิดของเจ้าของบ้านเช่า เดี๋ยว อย่าเพิ่งโวยจ๊ะ ไม่ได้หมายความว่า เจ้าของบ้านเป็นคนก่อเรื่องแย่ๆเหล่านั้นเอง แต่เป็นเพราะ ความสบายๆยังไงก็ได้ของเจ้าของบ้านเช่าซะมากกว่า ที่ทำให้ผู้เช่านั้น ทำผิดข้อสัญญา อย่างเช่น การที่ไม่กำหนดเส้นตายของการจ่ายค่าเช่าแต่ละเดือนที่แน่นอน ซึ่งกลายเป็นว่า ยอมให้ผู้เช่าจ่ายเงินเมื่อไรก็ได้  ดังนั้น คุณต้องเข้มงวดและดำเนินการอย่าง มืออาชีพมากพอในการทำธุรกิจนี้

ในขณะที่คุณอาจกำลังคิดว่าแบบนี้ดูใจร้าย แต่การเข้มงวดอย่างเหมาะสมเท่าที่จะเป็นไปได้ช่วยทำให้คุณมั่นใจได้ว่า มีคนปฎิบัติตามกฏ และจริงๆยังช่วยให้เกิดสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างคุณและผู้เช่าด้วย

การที่มีบทลงโทษ (ในรูปแบบทางการเงิน) ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เช่าจะปฎิบัติตามกฏ คุณอาจจะตั้งวันจ่ายค่าเช่า ทุกๆวันที่ 1 ของเดือน แต่ ให้เวลาผ่อนผันได้ไม่เกิน 5 วัน พอวันที่ 6 ถ้าคุณยังไม่ได้ รับค่าเช่า คุณก็ร่อนจดหมาย ใบประกาศแปะไว้ที่หน้าประตูให้มั่นใจว่า ผู้เช่าจะได้รับข้อความว่า “จะจ่ายค่าเช่า หรือ ทำห้องให้ว่าง” พร้อมกับรายละเอียดค่าปรับสำหรับการจ่ายที่ล่าช้า เมื่อคุณไม่ปล่อยให้ผู้เช่าจ่ายช้า พวกเขาก็ไม่จ่ายช้า

Tip 4: เป็นแค่เพียง ผู้จัดการอสังหาฯ

ถ้าคุณไม่ใช่คนประเภทกล้าเผชิญหน้าตรงๆ วิธีที่ดีและเรียบง่ายที่สุดก็คือ อย่าเป็นเจ้าของบ้านเช่า เราไม่ได้ให้คุณขายกิจการ หรือจ้างนิติกร มาดูแล (แม้ว่าการจ้างนิติกรอาจจะเป็นทางออกที่หลายคนพบว่าดีกว่า) แต่ เราเชื่อว่า มันสำคัญที่คุณจะแยกระหว่าง การเป็นเจ้าของ กับ ผู้จัดการอสังหาฯ

เมื่อเจอคำถามที่ตัดสินใจได้ยากจากผู้เช่า คุณอาจจะบอกว่า “ขอไปถามเจ้าของบ้านก่อนนะ” แล้วค่อย ติดต่อกลับมาที่ผู้เช่าอีกที เท่านี้คุณก็แค่ทำหน้าที่ คนกลาง และให้เวลาตัวเองกลับไปแก้ปัญหาก่อน และ คนที่ดูร้ายก็จะเป็น เจ้าของบ้านเช่าผู้ลึกลับ แทน  

Tip 5: อย่ากลัวที่จะกำจัดปัญหาทิ้งไป

ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะมานั่งทุกข์อยู่กับผู้เช่าแย่ๆ ถ้าคุณมีปัญหาหลังจากทำตามวิธีขั้นต้นที่กล่าวมาด้านบน โบกมือลาพวกเขาซะ มีที่มากมายที่จะให้เขาเหล่านั้นอยู่ มันไม่ใช่ว่าคุณจะเตะเขาไปนอนข้างถนนสักหน่อย

ถ้ายังมีสัญญาเช่าอยู่และคุณไม่อยากที่จะฟ้องขับไล่พวกเขา คุณก็อาจจะพิจารณาวิธีอย่าง “จ้างให้ออก” คล้ายๆกับการจ้างให้ออกของพนักงานออฟฟิศ คุณเสนอเงินจำนวนหนึ่งเพื่อให้พวกเขาออกไป (ในขณะที่วิธีนี้ ผู้ให้เช่าหลายคนอาจจะส่ายหน้าช็อคๆ แต่เชื่อเถอะว่า บางครั้ง มันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดกับเงินในกระเป๋าและสุขภาพจิตของคุณ เมื่อต้องเทียบกับการจ้างทนายและไปศาลเพื่อฟ้องขับไล่)

แต่ถ้าอยู่ในกรณีที่จำเป็นต้องฟ้องขับไล่ขึ้นมา จงทำให้หนักแน่นและทำให้เร็ว จ้างทนายที่มีความรู้ความสามาถทางด้านนี้ และสามารถที่จะจัดการการขับไล่ได้อย่างเร็วที่สุด แล้วเดินหน้าต่อไปทันที ก็อย่างที่บอก ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะไปนั่งทนอยู่กับผู้เช่าแย่ๆ  

แล้วคุณล่ะ? เคยมีประสบการณ์เจอผู้เช่าแย่ๆบ้างไหม? แล้วคุณมีวิธีการจัดการอย่างไร? แชร์ความคิดของคุณและบทความนี้ การช่องทางด้านล่างเลยค่ะ