แสนสิริ เผยแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 59 เปิดตัว 13 โครงการ มูลค่า 37,450 ล้านบาท

แชร์บทความนี้

 

"แสนสิริ" เผยแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 59 เปิดตัว 13 โครงการ มูลค่า 37,450 ล้านบาท จ่อคิวเปิดตัวโมริ เฮาส์ คอนโดล่าสุดใน T77 มูลค่าโครงการ 1,800 ลบ. พร้อมเตรียมเปิดตัวแคมเปญบ้านพร้อมอยู่ "Good Move ได้เวลาย้าย ขยายความสุข" รับไตรมาสที่ 3

 

แสนสิริเผยแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 59 ไฮไลท์ 7 คอนโดใหม่ พร้อมลุยแนวราบอีก 6 โครงการ มั่นใจรายได้ตามเป้าหมายจากรายได้ไตรมาสแรกที่ทำไปได้แล้วถึง 7,685 ล้านบาทและยอดขายรอรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในมือปีนี้แล้วอีก 16,012 ล้านบาท รวมเป็น 23,048 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 72% จากเป้าหมายรายได้จากการขาย 32,000 ล้านบาท

 

เตรียมเปิดตัวแคมเปญที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่รับไตรมาส 3 ในชื่อแคมเปญ “Good Move ได้เวลาย้าย ขยายความสุข” ดันรายได้ตามเป้าหมาย พร้อมจ่อคิวเปิดตัว โมริ เฮาส์ คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุดในพื้นที่ T77 และเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์เดอะ เบส โครงการล่าสุดในทำเลพระราม 9 “เดอะ เบส การ์เดน –พระราม 9” หลังเดอะ เบส พระราม 9 – รามคำแหงโครงการแรกปิดการขายไปก่อนหน้านี้

(รูปภาพจำลองโครงการโมริ เฮาส์)

 

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 13 โครงการ โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 7 โครงการ และโครงการแนวราบอีก 6 โครงการ ทั้งนี้จากความสำเร็จในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในช่วงที่ผ่านมาซึ่งได้รับการตอบรับจากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ล่าสุดบริษัทยังได้เตรียมเปิดการขายโมริ เฮาส์ คอนโดมิเนียม ใหม่ล่าสุดในพื้นที่ T77 บนถนนสุขุมวิท77 ซึ่งสร้างยอดขายพรีเซลส์จากลูกค้าต่างชาติไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท จากความเชื่อถือในแบรนด์แสนสิริในตลาดต่างชาติอย่างเป็นทางการ โดยจะเปิดพรีเซลล์ ในวันที่ 6 -7 สิงหาคมนี้

 

นอกจากนี้ในไตรมาส 3 บริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ภายใต้แบรนด์ “เดอะ เบส” โครงการล่าสุด ในชื่อโครงการ “เดอะ เบส การ์เดน – พระราม 9” ในทำเลพระราม 9 หลังจากเดอะ เบส พระราม 9 – รามคำแหง โครงการแรกปิดการขาย รวมทั้งเปิดตัวโครงการแนวราบต่อเนื่องอีก 6 โครงการ ในกรุงเทพฯ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า – กาญจนาภิเษก มูลค่าโครงการ 1,181 ล้านบาท, โครงการบ้านเดี่ยว บุราสิริ ราชพฤกษ์ – 345 มูลค่าโครงการ 2,380 ล้านบาท, โครงการบ้านเดี่ยว คณาสิริ รังสิต คลอง 2 มูลค่าโครงการ 1,012 ล้านบาท, รวมทั้งโครงการทาวน์เฮาส์ ช้อปเฮาส์และโฮมออฟฟิศภายใต้แบรนด์แสนสิริด้วยกันอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,470 ล้านบาท

 

รวมทั้งบริษัทยังได้เตรียมเปิดตัวแคมเปญที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการต่างเร่งทำการตลาดและร่วมมอบข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า นับเป็นเวลาที่ดีที่ลูกค้าจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัย บริษัทจึงได้เปิดตัวแคมเปญ ในชื่อ “Good Move ได้เวลาย้าย ขยายความสุข” กับบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ยูนิตสวยที่มาพร้อมราคาและข้อเสนอสุดพิเศษ พร้อมลุ้นรับบัตรเติมน้ำมันฟรีตลอดปี 2559 โดยแคมเปญจะเริ่มในวันที่ 15 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2559

 

ขณะที่ผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 บริษัทมียอดขาย (พรีเซล) แล้วประมาณ 13,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่และจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของแสนสิริเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โครงการล่าสุด เดอะ ไลน์ อโศก – รัชดา มูลค่า 2,900 ล้านบาทซึ่งปิดการขายทันทีในช่วงพรีเซลล์ รวมถึงการสร้างยอดขายที่ดีจากคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ 2 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ ดีคอนโด แคมปัส รังสิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท และโครงการ ดีคอนโด นิม เชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท อีกทั้งยอดขายจากตลาดต่างชาติจากการโรดโชว์โครงการคอนโดมิเนียม โมริ เฮาส์ ที่ประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ในช่วงที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการเปิดการขายโครงการแนวราบต่างๆ อาทิ บ้านเดี่ยวโครงการเศรษฐสิริ พัฒนาการ, เศรษฐสิริ วงแหวน – ลำลูกกา และ บุราสิริ รังสิต รวมถึงความสำเร็จจากการจัดงานกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยส่งท้ายมาตรการรัฐในช่วงไตรมาสแรก “ช้าหมดอดมาตรการ” การจัดแคมเปญ Uniquely You เหมือนคุณไม่เหมือนใคร ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และการใช้กลยุทธ์ตอกย้ำจุดเด่นของแบรนด์บ้านเดี่ยว ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “แสนสิริ บ้านที่ใช่ในทุกความรู้สึก” เพื่อชูความโดดเด่นของ 5 แบรนด์ “นาราสิริ-เศรษฐสิริ-บุราสิริ-สราญสิริ -คณาสิริ” ซึ่งปรากฎว่าลูกค้าให้การตอบรับที่ดี

 

"ปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Presale Backlog) กว่า 21,517 ล้านบาท ทั้งนี้จากการที่ลูกค้าตอบรับโอนที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ในปีนี้ไปแล้วถึง 72% จากเป้ารายได้จากการขาย 32,000 ล้านบาทในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งนับเป็น presale backlog ที่สามารถ secure เป้ารายได้ที่สูงมาก ดังนั้นจึงยังคงเหลือยอดขายและยอดโอนที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียง 28% บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้ ทั้งนี้บริษัทยังได้เตรียมส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จให้แก่ลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีกถึง 29 โครงการทั่วประเทศ รวมถึงโครงการใหม่ซึ่งจะพร้อมโอนในปีนี้อีก 8 โครงการ อาทิ คอนโดมิเนียมโครงการ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส), The XXXIX (เดอะ เทอร์ทีไนน์) และ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 ซึ่งจะเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่สร้างเสร็จ 100% และพร้อมโอน พร้อมให้ลูกค้าเข้าพักอาศัยหรือลงทุนปล่อยเช่าได้ในเดือนพฤศจิกายน 2559 นี้" นายเศรษฐากล่าว

ข้อมูลจาก: prachachat.net

แชร์บทความนี้
โครงการที่กล่าวถึงในบทความนี้

บทความยอดนิยม


บทความใหม่ล่าสุด

เตรียมบ้านให้พร้อมและปลอดภัย ในช่วงวันหยุดยาว

ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว หรืออาจกลับบ้านไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่ที่ต่างจัง ... อ่านต่อ...

5 ทริคแต่งบ้านสวยด้วยสไตล์รีสอร์ท ให้บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่

ส่วนมากแล้วคนเรา มักจะอยากได้บ้านที่มีความสวยงาม ร่มรื่น เงียบสงบ มีมุมสวย ๆ เอาไว้นั่งทอดน่องในช่วง ... อ่านต่อ...

6 กลยุทย์การตลาดอสังหาฯ เพื่อเพิ่มยอดขายและมีลูกค้า Walk-in

กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภททั้งบ้าน คอนโด ที่ดิน อาคารพาณิชย์ต่าง ๆ มีการแข่งขันกันสูงมากในย ... อ่านต่อ...

วิธีคลายร้อนให้บ้าน ช่วงหน้าร้อนนี้

อากาศที่ร้อนอบอ้าว เมื่อย่างก้าวเข้าสู่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่อากาศร้อนที่สุดในรอบปีของประเทศไท ... อ่านต่อ...

เช่าคอนโดครั้งแรก คำแนะนำ สำหรับผู้เช่ามือใหม่

การ เช่าคอนโด เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่ไม ... อ่านต่อ...