สำหรับผู้ที่กำลังมองหาซื้อบ้านสักหลังเพื่อขยับขยายครอบครัว หรือย้ายที่อยู่ใหม่ อาจกำลังพิจารณาถึงบ้านในโครงการ บ้านจัดสรร นั่นคือ ซื้อบ้านจากผู้พัฒนาโครงการ หรือผู้จัดสรรที่ดินมีที่ดินแปลงใหญ่แล้วนำมาขออนุญาตจัดสรรที่ดิน สร้างบ้านตั้งแต่ 10 แปลงขึ้นไป เพื่อขายไว้เป็นบ้านที่อยู่อาศัย หรืออาคารพาณิชย์เพื่อประกอบธุรกิจ หรือที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
บทความนี้บ้านไฟน์เดอร์ รวบรวมสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อซื้อบ้านจัดสรร บ้านในโครงการบ้าน มีอะไรบ้างที่ผู้ซื้อควรรู้ไว้ มาดูกันเลย
ข้อดีของการซื้อบ้าน ในโครงการบ้านจัดสรร
- ความปลอดภัย โครงการบ้านจัดสรรมักจะสร้างรั้วรอบพื้นที่โครงการ และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภันตรวจสอบบุคคลภายนอกที่จะเข้าออกพื้นที่ภายในโครงการด้วยทำให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
- สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ปัจจุบันโครงการบ้านจะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้อยู่อาศัยสามารถแชร์การใช้งานร่วมกันได้ โดยไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อใช้บริการสิ่งเหล่านี้ เช่น สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ห้องฟิตเนสสำหรับออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ หรือพื้นที่นั่งทำงานส่วนกลาง ฯลฯ
คำแนะนำก่อนซื้อบ้านและที่ดินในโครงการจัดสรร
ผู้ซื้อบ้านย่อมต้องการที่จะอยู่ในทำเลที่ดี ไม่มีปัญหาภายหลัง ดังนั้น ควรตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ก่อนเลือกซื้อบ้านจัดสรรในโครงการบ้านด้วย
1. ตรวจสอบทำเล ที่ดิน
ตรวจสอบที่ดินที่ตั้งของโครงการ ทั้งในอดีตว่าพื้นที่เป็นหนองน้ำ สระน้ำ หรือ มีการปรับปรุงที่ดินอย่างไร เพื่อมั่นใจว่าพื้นที่มีความหนาแน่น ไม่ทรุดตัว รวมไปถึงตรวจสอบว่าทางรัฐบาลมีโครงการที่จะดำเนินการอะไรในบริเวณที่ดินหรือไม่ในอนาคต เช่น การเวนคืน การก่อสร้างถนน สะพาน ทางหลวง เป็นต้น
2. ส่วนกลางของโครงการเป็นอย่างไร
พิจารณาสภาพแวดล้อมของโครงการ การออกแบบถนน ความกว้างถนนเหมาะสมไหม ทางเข้า-ออก โครงการเป็นอย่างไร รวมไปถึง สวน คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำ ตรงกับความต้องการหรือไม่
3. พิจารณาเจ้าของโครงการ
ตรวจสอบเจ้าของโครงการ ผู้จัดสรรที่ดิน ว่าเป็นผู้ประกอบการที่มีฐานะการเงินมั่นคงแค่ไหน มีประสบการณ์ทำบ้านจัดสรรมาก่อนไหม หรือผลงานโครงการที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เคยถูกร้องเรียน ฟ้องร้องหรือไม่ เป็นต้น และที่สำคัญเจ้าของโครงการได้รับใบอนุญาตให้้ทำการจัดสรรที่ดินแล้วหรือไม่ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ที่ กรมที่ดิน
4. ค่าใช้บริการและค่าบำรุงรักษาบริการสาธารณะ
ผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการบ้านจัดสรรมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินค่าส่วนกลาง ที่ใช้ในการดูแล จัดการบริการสาธารณะร่วมกันภายในโครงการ ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ค่าทะนุบำรุงฟิตเนส สระว่ายน้ำ ฯลฯ ที่เป็นค่าใช้จ่ายที่จะคิดตามอัตราส่วนขนาดพื้นที่ของบ้าน ดังนั้น เราควรรู้ว่าต้องจ่ายค่าส่วนกลางต่อตารางวาเท่าไร
ข้อแนะนำ หลังจากที่ซื้อบ้านในโครงการบ้านจัดสรรแล้ว
1. เก็บเอกสาร โบว์ชัวโฆษณาที่เจ้าของโครงการโฆษณาไว้
รวมถึงสำเนาสัญญา และใบเสร็จรับเงินต่างๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงกรณีที่มีปัญหาภายหลังได้
2. จ่ายค่าส่วนกลางที่เรียกเก็บเป็นรายเดือนหรือรายปีตามกำหนด
หากผู้ซื้อบ้านจ้างจ่ายค่าส่วนกลางตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป อาจถูกระงับการให้บริการ หรือค้างเกิน 6 เดือนขึ้นไป นอกจากจะถูกระงับการให้บริการแล้ว จะไม่สามารถทำธุรกรรมในที่ดินของผู้ค้างชำระได้อีกด้วย
3. การอยู่ร่วมกันในชุมชนหมู่บ้านจัดสรร
เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและสังคมที่น่าอยู่ภายในโครงการหมู่บ้านจัดสรร เจ้าของบ้านและสมาชิกในหมู่บ้านจัดสรรควรเคารพกฎระเบียบที่สมาชิกร่วมกันกำหนดขึ้น เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างกัน รวมถึงให้ความร่วมมือในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับหมู่บ้านเอง เช่น การใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องต่างๆ การเข้าร่วมประชุมนิติบุคคล เป็นต้น